TEAMGจ่อเซ็นงาน เติมพอร์ต300ล. เล็งCLMVขยายฐาน

นางสาวนวลแพร  ภัทรมัย  ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและสื่อสารองค์กร และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าจะดีขึ้นมากกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถกลับเข้าทำงานได้ตามปกติ ร่วมถึงเปิดไซต์งานได้ตามปกติ ซึ่งบริษัทก็เดินหน้าเร่งงานเพื่อส่งมอบอย่างต่อเนื่อง

*จ่อเซ็นสัญญางานเพิ่ม

โดยหลังจากนี้จะมีโครงการภาครัฐออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทเตรียมเซ็นสัญญางานขนาดใหญ่อีกจำนวน 1-2 โครงการ มูลค่า 200-300 ล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ก่อนหน้านี้บริษัทเริ่มได้รับงานขนาดใหญ่เข้ามาหลายงาน อาทิ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา  และเมืองการบินภาคตะวันออก ระยะแรก มูลค่าโครงการ 415.61 ล้านบาท และงานด้านที่ไม่เกี่ยวกับที่ปรึกษา (Non-Consulting Services) ได้เเก่ โครงการระบบผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในโรงพยาบาลสรรค์ประชารักษ์ (แห่งใหม่) มูลค่าประมาณ 245 ล้านบาท เเละโครงการโซลาร์รูฟ (Solar Rooftop) 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท

นอกจากนี้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นและมีการเปิดประเทศ บริษัทคาดว่าจะมีโอกาสเข้าไปรับงานในกลุ่มประเทศ CLMV เช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม  ลาว  กัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทเคยเข้าไปรับงานเขื่อนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เป็นต้น

*ร่วมทุนเสริมแกร่ง

ด้านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน โดยบริษัทได้ร่วมกับผู้ร่วมทุน 4 รายในการจัดตั้งบริษัท แอสเซ็ท แอคทิเวเตอร์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง TEAMG ถือหุ้นในสัดส่วน 30% ของทุนจดทะเบียน และมีบริษัท มานูเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 30% บริษัท เบย์ คอมพิวติ้ง จำกัดถือหุ้น 25% บริษัท คอนส์ โรโบติกส์ จำกัด ถือหุ้น 5% และนายพร วิรุฬห์รักษ์ จำกัด ถือหุ้น 10%

ปัจจุบันบริษัทได้เดินหน้าหาลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยจะดำเนินธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ การบริหารจัดการข้อมูลดิจิทัลของสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์, การพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขข้อมูลด้าน Building Information Modeling (BIM) และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาศักยภาพของการบริหารสินทรัพย์

ขณะที่การเข้ามาถือหุ้นของบริษัทย่อยในเครือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC โดยร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจะสามารถนำความรู้ ความสามารถด้านโซลูชั่น เทคโนโลยีการก่อสร้างเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้า คาดว่าจะได้เห็นการร่วมมือในด้านการทำงาน ในช่วงปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างทำแผนธุรกิจ

อย่างไรดี บริษัทมีเป้าหมายการมุ่งสู่การลงทุน Non Consulting Business ในด้านต่างๆ เช่น ระบบประปา ระบบ Solar และระบบ District Cooing เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) โดยกำหนดเป้าหมายในปี 2568 จะมีผลตอบแทนจาก Non Consulting Business เทียบเท่าผลตอบแทนจากธุรกิจ Consulting Business เดิม