AWCรับจีนเที่ยวไทย จอง-อัตราเข้าพักพุ่ง
#AWC #ทันหุ้น – AWC รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัวแกร่ง จัดประชุม-สัมนาหนุน เผยนักท่องเที่ยวจีนมียอดจองโรงแรมเพิ่มขึ้น คาดตัวเลขอัตราการเข้าพัก (OCC) ในทุกโรงแรมดีขึ้น จากปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 70-80% มั่นใจโค้งท้ายปีสดใส ด้านโบรกมองการเติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ยปี 2567-2569 ที่ 66% คาดการณ์กำไรปี 2566 สูงกว่าปี 2562 หนุนมาจากการเข้าซื้อสินทรัพย์ตั้งแต่ปี 2563 เคาะราคาเป้าหมาย 6.60 บาท
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มต่อเนื่องโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น เช่นนักท่องเที่ยวจีนมียอดจองโรงแรม (Booking)เพิ่มขึ้นมากในช่วงนี้ ประกอบกับไตรมาส 4เป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว ดังนั้นน่าจะเห็นตัวเลขอัตราการเข้าพัก (OCC) ในทุกโรงแรมดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 70-80 %
*รายได้ห้องพักฟื้น
ขณะที่รายได้ห้องพักเฉลี่ยของห้องพักRevPAR (Revenue Per Available Room) อยู่ในระดับที่ดี และสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลบวกต่อภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้ามาใช้จ่ายเงินได้มากกว่าเดิม เป็นโอกาสผลักดันผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2565
“ขณะนี้ตัวเลขทุกโรงแรมดี จำนวนนักเดินท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น และเป็นช่วงไฮซีซันปลายปีด้วย สถานการณ์อัตราการเข้าพักดีขึ้น อย่างในกรุงเทพฯ ก็มีหลายโรงแรมได้ที่รับประโยชน์ จากการประชุม การจัดสัมมนา อย่างการจัดประชุมเอเปคได้รับประโยชน์อัตราการเข้าพักในเดือนพฤศจิกายนด้วย ทั้งนี้ปัจจุบันตัวเลขอัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 70-80% น่าจะสนับสนุนผลประกอบการไตรมาส 4 ให้ดีขึ้น” นางวัลลภา กล่าว
ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างจัดทำแผนการเติบโตของปี 2566 แต่เชื่อว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว นอกจากนี้ธุรกิจศูนย์การค้า พื้นที่สำนักงาน อย่างโครงการเอเชียทีค ซึ่งมีพันธมิตรเข้ามาดำเนินการเพื่อผลักดันให้เป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวทั้ง (F&B – Food and Beverage) ต่อไป นอกจากนี้ปีหน้าก็เตรียมที่จะเปิดโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ในช่วงไตรมาส 1/2566 และจะมีการรีแบรนด์โรงแรมอีก 2 แห่งด้วย
*ฐานะการเงินแกร่ง
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง AWC เปิดเผยว่า คาดสถานะทางการเงินของบริษัทจะฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2567 ซึ่งภาพ การเติบโตของกำไรที่เร็วของ AWC จะเป็นปัจจัยที่หนุนให้ PER ของ บริษัทสูงกว่ากลุ่ม โดย ณ สิ้นปี 2565 พอร์ตโรงแรมของบริษัทจะขยายตัวขึ้น 22% จากปี 2562 ในด้านของจำนวนห้อง และที่เปิดตัวใหม่
ล่าสุดเช่น บันยันทรี กระบี่ มีเลีย สมุย และ มีเลีย เชียงใหม่ได้รับผลตอบรับที่ดี นอกจากนี้อีก 12 โรงแรมที่จะเปิดตัวในปี 2566-69 รวมไปถึงพัทยา แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่หาดจอมเทียน อควาติก ดิสทริคพัทยา และโรงแรมคิมปัตัน หัวหิน บริษัทมีสถานที่ตั้งโรงแรมที่ได้เปรียบและมีผู้บริหารโรงแรมระดับโลก (แมริออท, IHG และเมเลีย)
*เคาะเป้าหมาย 6.60 บ.
นอกจากนี้ ปัจจุบัน AWC เป็นหุ้นที่ชอบที่สุดในกลุ่มโรงแรมจาก 1.อัตราการเติบโตสะสมเฉลี่ยปี 2567-2569 สูงที่สุดถึง 66% หนุนจากโรงแรมใหม่ 12 แห่ง 2.PEG ที่ต่ำเพียง 0.88 (ต่ำสุดในกลุ่ม) 3.คาดจะพลิกกลับเป็นกำไร
ในไตรมาส 4/2565 และ 4.ราคาหุ้น AWC เพิ่งจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ระดับ เดียวกับปี 2562 แต่บริษัทเป็นเพียงรายเดียวที่ให้คำแนะนำซึ่งน่าจะรายงานกำไรปี 2566 สูงกว่าปี 2562 โรงแรม 10 แห่งของบริษัทเป็นพาร์ตเนอร์กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (โดยมีพื้นที่ 3 แสนตร.ม.) บริษัทคาดจะเห็นการจองพักโรงแรมที่มากขึ้นในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และเกาะสมุย จากอีเวนต์ไมซ์จากต่างประเทศที่กำลังจะมาถึงอีกทั้ง ธุรกิจขายที่ดินของ AWC (พื้นที่ค้าปลีกและสำนักงานให้เช่า ประมาณ30% ของรายได้ทั้งหมด) มีแนวโน้มที่จะรายงานรายได้ในปี 2565 ที่ลดลง 30% จากปี 2562
อย่างไรก็ตามอัตราการใช้ที่ปรับตัวขึ้นนับตั้งแต่สิ้นเดือนมิถุนายน และการให้ส่วนลดค่าเช่าเฉลี่ยในไตรมาส 3/2565 ก็ลดลง จากไตรมาสก่อนหน้า ดังนั้นคาดรายได้จากธุรกิจนี้จะปรับตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาส 3/2565 สำหรับไตรมาส 4/2565 AWC จะนำประสบการณ์ระดับโลกของดิสนีย์มาสู่ เอเชียทีคในกรุงเทพฯ เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมให้มากขึ้น ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท