หุ้นใหม่PROS ยื่นไฟลิ่งก.ล.ต. จ่อเข้าเทรดmai
ทันหุ้น - สู้โควิด - หุ้นน้องใหม่ “พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง” ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ขอเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 140 ล้านหุ้น และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) หวังนำเงินที่ได้ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
บริษัท พรอพเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ PROS ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filling) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 140 ล้านหุ้นหรือ 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.คันทรี่ กรุ๊ป เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
ลงทุนเครื่องจักร
บริษัทได้ระบุโครงการในอนาคต ว่ามีแผนลงทุนในเครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ใช้ในงานก่อสร้างเพิ่มเติม ภายในปี 2564-2565 ซึ่งการลงทุนดังกล่าว จะช่วยเพิ่มศักยภาพของบริษัทในการเข้ารับงานโครงการจากหน่วยงานราชการและเอกชนมากขึ้น
บริษัทและบริษัทในกลุ่ม ได้ให้บริการ 4 ประเภท ได้แก่การให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมไฟฟ้าและระบบวิศวกรรมสื่อสาร, การให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบประปา ระบบสุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัย, การให้บริการงานรับเหมาติดตั้งงานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ และการให้บริการงานโครงสร้างและสถาปัตยกรรม
ณ วันที่ 30 มิ.ย.63 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 270 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 200 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 400 ล้านหุ้น ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 270 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 540 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท/หุ้น และมูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) 0.65 บาท/หุ้น
โชว์ผลประกอบการ
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงปี 60-62 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากงานก่อสร้างและงานบริการเป็นจำนวน 1,243.71 ล้านบาท จำนวน 1,311.09 ล้านบาท จำนวน 938.46 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 5.42% และลดลง 28.42% ในปี 61 และปี 62 ตามลำดับ ขณะที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 38.11 ล้านบาท จำนวน 81.88 ล้านบาท และจำนวน 27.45 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 3.05%, 6.23% และ 2.91% ตามลำดับ
ส่วนในงวด 6 เดือนแรกของปี 63 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากงานก่อสร้างและงานบริการ 338.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราลดลง 8.14% เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนแรกปี 62 ขณะที่มีกำไรสุทธิ 4.75 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปี 62 จำนวน 4.12 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราลดลง 46.40% เนื่องจากรายได้ลดลงจากการชะลอแผนงานการก่อสร้างของลูกค้าบางราย และสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้ฐานลูกค้าหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มห้างสรรพสินค้าและค้าปลีกและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่
บริษัทระบุว่า ณ วันที่ 30 มิ.ย.63 มีงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบในส่วนของ PROS ที่ยังไม่ได้รับรู้เป็นรายได้ มูลค่า 904.49 ล้านบาท และงานของ PT มูลค่า 215.51 ล้านบาท
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการ และหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทได้กำหนด