"สมคิด" หารือ "ทูตสหรัฐฯ" ดึงเป็นพาร์ทเนอร์เศรษฐกิจ

วันนี้ ( 2 ก.ค.63)  ที่ห้องรับรองตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ 

ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าพบ นายสมคิด กล่าวว่า  ได้หารือกันในเรื่องการเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับไทย โดยต้องการให้สหรัฐฯ เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยได้บอกกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ไปว่า ไทย มีศักยภาพทั้งการเป็นศูนย์กลางการผลิต ภาคบริการ และภาคการเงินของภูมิภาค  รวมทั้งในส่วนของการบริการทางการแพทย์

พร้อมกันนี้  ได้เสนอสหรัฐฯ ให้ความสนใจไทยเป็นพิเศษ เพราะมั่นใจว่าในขณะนี้ไทยเป็นศูนย์กลางของ CLMVT  (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา, เวียดนาม และไทย) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอาเซียน  และในปี 2564  จะเป็นปีที่โครงการต่างๆ ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีความสมบูรณ์มากขึ้น ไทยจะยิ่งมีความโดดเด่น ขณะที่ตลาดเงินตลาดทุนก็มีความแข็งแรง และมีความน่าดึงดูดไม่แพ้ตลาดสิงคโปร์ โดยเฉพาะเมื่อไทยมีความเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นของฮ่องกงและเซินเจิ้นในจีน ทำให้ไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่สหรัฐฯ ควรจะให้ความสำคัญในการเข้ามาลงทุนในไทยเป็นลำดับแรก

ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยอมรับว่า ในมุมมองของนักลงทุนสหรัฐมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเนื่องจากมองว่ามีศักยภาพทางเศรษฐกิจและสามารถที่จะเป็นที่ตั้งของซัพพายเชนสหรัฐฯ ได้