พายุถล่มพิจิตร! ปู่-หลานเสียชีวิตคู่ ญาติเปิดใจเศร้า
สุดเศร้า! ปู่-หลานเสียชีวิตคู่ จากเหตุพายุหมุนงวงช้างพัดถล่ม อาคารโดม รร.วัดเนินปอ พังยับ ย่าเผยไม่มีลางบอกเหตุ
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์พายุงวงช้างพัดถล่ม ทำให้โดมขนาดใหญ่สูง 10 เมตร กว้าง 20 เมตรและยาว 40 เมตร ของโรงเรียนวัดเนินปอ ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตรพังถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย
โดยบรรยากาศการจัดงานศพของนายดัง นักการภารโรง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โดมโรงเรียนวัดเนินปอ ซึ่งเป็นโดมขนาดใหญ่สำหรับเล่นกีฬาหรือจัดกิจกรรมต่างๆ ของทางโรงเรียน ถูกลมพายุแบบงวงช้างพัดจนตัวโดมถล่มลงมา เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 พฤษภาคม) ที่ผ่านมา ภรรยาและญาติๆ ได้เร่งจัดเตรียมสถานที่สำหรับการสวดพระอภิธรรมศพ ซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณปู่ และหลานชาย วัย 6 ปี เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โดยตั้งศพคู่ในบ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากต้องสูญเสียสามีและหลานชายไป โดยนางปิ่นแก้ว และมีศักดิ์เป็นย่า บอกถึงอุปนิสัยของนายดัง (โค้ชนักกีฬาฟุตบอล) และหลานชาย ว่า เป็นคนร่าเริง สนุกสนาน มีใจรักเป็นนักกีฬาฟุตบอล ซึ่งได้ไปแข่งขันหลายพื้นที่แล้ว ซึ่งในช่วงต้นเดือนหน้าก็ไปจะแข่งขันจึงมีการซักซ้อมกันอย่างจริงจัง โดยช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ สามีและหลานชายก็ไม่ได้พูดอะไร หรือตนเองมีลางสังหรณ์อะไรว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
มารู้ว่า ประมาณ 1 ทุ่ม ครูที่โรงเรียนโทรบอกกับตนเอง ให้ไปดูสามีและหลานชาย ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกเศษซากของตัวอาคารโดมทับร่างจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสทั้งปู่และหลาน แต่ถ้าช่วยออกมาจากเศษซากได้เร็วกว่านี้ สามีและหลานชายก็อาจจะไม่ตายก็ได้ โดยส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียสามีและหลานชายไป เพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับตนเอง สำหรับการสวดพระอภิธรรมสามีและหลานชายยังไม่ได้กำหนดวันฌาปนกิจ ต้องรอปรึกษากับญาติๆก่อน
ด้านพลตำรวจตรีกำธร จันที ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร บอกว่า ขณะเกิดเหตุสันนิษฐานว่า โดยลักษณะของลมพายุเกิดขึ้นจากทิศตะวันออกพัดไปทางทิศตะวันตก ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอาศัยหลบพายุฝนเป็นกลุ่มก้อน เมื่อลมพายุพัดหมุนวนไปมาและส่งผลให้โดมพังถล่มลงมาจึงหนีออกมาไม่ทัน และถูกตัวอาคารซึ่งโครงสร้างเป็นเหล็กล้มทับได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
สำหรับโรงเรียนแห่งนี้ ยังไม่มีผู้อำนวยการโรงเรียนตั้งแต่ผู้อำนวยการคนเก่าปลดประจำการไป และโรงเรียนก็สั่งได้ปิดเป็นการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด ขณะนี้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายมากกว่า 300 หลังคาเรือนใน 11 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วย ตำบลเนินปอ และตำบลรังนก อำเภอสามง่าม ส่วนการให้ความช่วยเหลือจะเร่งเยียวยาตามระเบียบของทางราชการต่อไป
ภาพจาก ผู้สื่อข่าวพิจิตร