"เขื่อนเจ้าพระยา" ปรับลดการระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน

สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง เริ่มคลี่คลาย หลังปริมาณน้ำเหนือลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำเหนือที่ไหลผ่านจุดวัดน้ำC2 หน้าค่ายจิรประวัติ อำเภอเมืองนครสวรรค์ เมื่อวานนี้(25 ต.ค.) วัดได้ 2,673 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที   เขื่อนเจ้าพระยาจึงได้ปรับลดการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนจากระดับ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลงไปอยู่ที่อัตรา 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะปรับลงแบบขั้นบันไดไปจนถึงอัตราไม่เกิน 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อบรรเทาความเดือร้อนของประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งจะส่งผลทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนลดลง   5-10 เซนติเมตรภายใน 24 ชั่วโมง 

โดยพื้นที่ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้ถูกน้ำท่วมขังจากพนังกั้นน้ำหน้าวัดสมอ ม.3 แตกมานาน22วันล่าสุดพบว่ายังมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมขังกว่า500หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 30-180ซ.ม. ชาวบ้านบางส่วนอพยพหนีน้ำขึ้นมาอยู่บนถนนคันคลองมหาราช โดยชาวบ้านบอกว่าปัจจุบันที่ต้องเจออุปสรรคเรื่องระดับน้ำที่สูงจนต้องใช้เรือในการสัญจรแล้ว ชาวบ้านจังต้องเจอปัญหาน้ำเน่าเสียด้วย แม้ว่าจะมีหน่วยงานนำสารเร่งการย่อยสลาย EM มาเติมแต่ก็ยังไม่ได้ช่วยปัญหาเรื่องกลิ่นหมดไปเพราะน้ำเสียมีปริมาณมากเกินกว่าที่EMจะครอบคลุมทั่วถึง

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาจะปรับลดการระบายน้ำลง แต่พื้นที่ท้ายเขื่อน ในตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา ได้ถูกน้ำท่วมขังเนื่องจากพนังกั้นน้ำหน้าวัดสมอ ถูกน้ำซัดพังมานาน 22 วันแล้ว   ยังมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมขังกว่า 500 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 30-180 เซนติเมตร   ชาวบ้านบางส่วนต้องอพยพหนีน้ำขึ้นไปสร้างเพิงพักอยู่ริมถนนคันคลองมหาราช  ประมาณ 400 ครอบครัว 

ด้าน ปภ.จังหวัดชัยนาท สรุปสถานการณ์ ในมีพื้นที่ มีน้ำท่วม 1 อำเภอ คือ อำเภอสรรพยา จำนวน 5 ตำบล 25 หมู่บ้าน 1,759 ครัวเรือน มีผู้ประสบภัยทั้งสิ้น 4,750 คน