ยอดสะสมพุ่ง 40 ราย กาฬสินธุ์ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ติดจากเพื่อน กทม. แพร่เชื้อในครอบครัว
ข่าววันนี้ 23 เม.ย. 64 ที่ศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จ.กาฬสินธุ์ ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ชั้น 2 นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นพ.ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ รองผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ร่วมแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามหลังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด วันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย ส่งผลให้มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในระลอกเดือนเมษายน 2564 รวม 40 ราย
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 3 ราย ทำให้ในช่วงระลอกเดือนเมษายน 2564 มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 40 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 ราย ส่วนอีก 39 รายกำลังรักษาที่โรงพยาบาล โดยผู้ป่วยเพิ่มรายใหม่ประกอบด้วย
รายที่ 38 เพศหญิง อายุ 51 ปี อาชีพเกษตรกร ภูมิลำเนา ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เริ่มเจ็บป่วยวันที่ 20 เมษายน 2564 ด้วยอาการเจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับ ผู้ป่วยรายที่ 29 (ลูกสาว) และรายที่ 36 ปี (ลูกเขย) ซึ่งผู้ป่วยรายนี้จากการสอบสวนโรคของผู้ป่วยรายที่ 29 พบมีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงจำนวน 12 คน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน 4 ราย และญาติพี่น้องอีก 8 ราย ทุกรายเจ้าหน้าที่ได้ติดตามกักกันตัวในสถานที่พักได้ทั้งหมดแล้ว และเข้ารับการตรวจ พบว่าติดเชื้อ 1 ราย คือรายที่ 39 กำลังรอผลอีก 3 ราย และอยู่ระหว่างการเข้ารับการตรวจอีก 8 ราย
รายที่ 39 เพศหญิง อายุ 33 ปี ว่างงาน ภูมิลำเนาหมู่บ้านเดียวกันและเริ่มป่วยพร้อมกันกับรายที่ 38 ในวันที่ 20 เมษายน 2564 ด้วยอาการไอ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 29 (น้องสาว) และรายที่ 36 (น้องเขย) รายที่ 40 เพศหญิง 41 ปี อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนาบ้านค้อ ม.1 ต.หนองช้าง อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 ด้วยอาการลิ้นไม่รับรส เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่ร้านเฮลท์แลนด์ เอกมัย กรุงเทพฯ จากการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูง 4 ราย ทุกรายสามารถติดตามกักตัวในสถานที่พัก และนัดตรวจเชื้อในวันที่ 23 เมษายน 2564 ทั้ง 4 ราย
นายทรงพล กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่พบว่าช่วงระยะหลังนี้ โดยเฉพาะผู้ป่วยรายที่38 และรายที่39 มีความเกี่ยวเนื่องติดเชื้อมาจากรายที่29 และรายที่36 คือเป็นผู้ป่วยในครอบครัวเดียวกันที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพฯ แล้วอาศัยด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน และทำกิจกรรมหลายอย่างร่วมกัน ซึ่งกลุ่มนี้ค่อนข้างพบผู้ป่วย และกลุ่มเสี่ยงหลายราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปติดตามดูภายในหมู่บ้าน เพื่อตรวจคัดกรอง และประเมินสถานการณ์ หากจำเป็นจะมีการมาตรการเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ถือว่าอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค ทางจังหวัดนอกจากจะกำชับให้ทั้ง 18 อำเภอ ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดแล้ว ยังได้กำชับไปในพื้นที่เข้มงวดเกี่ยวกับพฤติกรรมในการเสี่ยงแพร่ระบาด โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมาก และการลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ ห้ามไม่ให้มีอย่างเด็ดขาด และทางจังหวัดเอาจริงมาตลอด ทั้งนี้หากพบมีการกระทำในลักษณะดังกล่าวพื้นที่ต้องรับผิดชอบ
ด้าน นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ได้ทำการสอบสวนโรค และเผยแพร่ไทม์ไลน์เฉพาะพื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยง เพราะส่วนใหญ่สามารถควบคุมโรคและติดตามตัวกลุ่มเสี่ยงได้ แต่เพื่อความสบายใจและให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังมากขึ้น จะมีการปรับเปลี่ยนเผยแพร่ไทม์ไลน์ให้ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้จากการสอบสวนโรคผู้ป่วยทั้ง 40 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสามารถตรวจสอบค้นหาได้ว่าติดมาจากไหนและจากใคร ไปถึงไหน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นวงกว้าง เพราะติดเชื้อที่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด