TTB มุมมอง 'เอเซีย พลัส' การเข้าซื้อ TNS-TLEASING
#ทันหุ้น - บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุ วานนี้ TTB แจ้ง SET เกี่ยวกับการลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นใน บล. ธนชาต (TNS) สัดส่วน 89.97% (ปัจจุบัน TTB ถือหุ้นใน TNS 10%) จาก TCAP และ TLEASING (เช่าซื้อรถจักรยานยนต์) สัดส่วน 100% จาก MBK ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการซื้อขาย โดยธุรกรรมจะแล้วเสร็จ หลังทำ Due diligence รวมถึงได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (หลักๆ คือ ธปท.) และที่ประชุมผู้ถือหุ้น (ปกติ AGM ช่วง เม.ย)
ความเห็นฝ่ายวิจัย : มองกลาง แม้หากธุรกรรมแล้วเสร็จ จะสร้างส่วนเพิ่มให้กับประมาณการ แต่ประเมินกำไรที่เพิ่มต่อประมาณการจากทั้ง 2 ไม่สูง และเนื่องจากยังไม่มีการเปิดเผยราคาในการเข้าซื้อ ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าการทำ M&A ราคาหุ้นของผู้ซื้อจะตอบสนองในทิศทางใด ขึ้นอยู่กับความถูกหรือแพงของธุรกรรม โดยมีรายละเอียดของทั้ง 2 ธุรกิจ ดังนี้
- TNS คิดเป็นสัดส่วนราว 0.6% บนสมมติฐานกำไร 250 ล้านบาท รับรู้ตั้งแต่ 2H68 อิงกำไรงวด 1H67 ของ TNS ราว 95 ล้านบาท (ค่าเฉลี่ยกำไรปี 2563-66 ราว 474 ล้านบาทต่อปีตามภาวะตลาดทุน) ด้านประโยชน์เชิงกลยุทธ์จะช่วยปิดจุดอ่อนของ TTB ที่ยังขาดค่าธรรมเนียมจาก บล. เมื่อเทียบกับ ธ.พ. อื่น
- TLEASING อิงข้อมูล DBD ปี 2566 มีกำไร 36 ล้านบาท (ปี 2565 มีกำไร 487 ล้านบาท) ขณะที่สินเชื่อ ณ สิ้นงวด Q2/67 อยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท (สัดส่วน 0.6% ของสินเชื่อ TTB) และสัดส่วน NPL Ratio ราว 2.4% (สิ้นปี 2566 ที่ 2.8%) โดยประโยชน์ที่ได้ช่วยเสริมพอร์ตสินเชื่อ High yield ของ TTB ซึ่งฐานลูกค้าของ TLEASING เน้นกลุ่มลูกค้ามีเงินเดือนในเมืองเป็นหลัก เพียงแต่ยอดขายรถจักรยานยนต์ตั้งแต่ปี 2559 - 2566 อยู่ในกรอบ 1.6 –1.8 ล้านคัน (9M67 ราว 1.3 ล้านคัน) และดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ต่ าลงตามเกณฑ์ของ สคบ. เหลือไม่เกิน 23% ต่อปี (เดิมประมาณ 40% ต่อปี) ภาพรวมทำให้ความน่าสนใจของการท าธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อยู่ในระดับที่เป็นกลาง ตามความเห็นฝ่ายวิจัย
มูลค่าธุรกรรมที่อาจเป็นไปได้เบื้องต้น : สามารถพิจารณาจากราคาทุนของ TNS ที่ TCAP ถือ ณ สิ้นงวด Q2/67 อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท ส่วนราคาทุนของ TLEASING ที่ MBK ถืออยู่ ณ สิ้นปี 2566 ราว 2.4 พันล้านบาท (ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2566 ราว 2.9 พันล้านบาท)
ด้านผลต่อสัดส่วนเงินกองทุนของ TTB ด้วยสินทรัพย์ของ TNS ราว 8.5 พันล้านบาท และสินเชื่อ TLEASING ข้างต้น รวมกันจะอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท จึงมองว่าผลกระทบต่อระดับ BIS Ratio และ Tier-1 ไม่สูงซึ่ง ณ สิ้นงวด Q3/67 อยู่ที่ 19.7% และ17.3% สูงเกินเกณฑ์ขั้นต่ำของ ธปท. ที่ 12% และ 9.5% ตามลำดับ จึงประเมิน TTB ยังคงสามารถรักษาอัตราการจ่ายปันผลได้ (สมมติฐานฝ่ายวิจัยปี 2567-69 กำหนดที่เฉลี่ย 62% ของกำไรสุทธิ) อิง PBV ที่ 0.8 เท่า ให้ FV ปี 2568 ที่ 2.02 บาท (เทียบเท่า PER 10 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2560) คงแนะนำ Neutral แม้การเติบโตของกำไรไม่สูง แต่ให้ Div yield ราว 7% ต่อปี