"จุรินทร์"เชื่อ RCEP หนุนการค้า-ลงทุน เพิ่มโอกาสสินค้าไทย
วันนี้ ( 16 พ.ย.63) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลง RCEP (อาร์เซ็ป ) จะทำให้ไทยได้ประโยชน์ทั้งเรื่องการส่งออกสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน โดยเฉพาะการสนับสนุนสินค้าของไทยที่มีจุดแข็งอย่างสินค้าเกษตรให้สามารถบุกตลาดอีก 14 ประเทศได้ ไโดยเฉพาะพืชผลทางการเกษตรอาทิ มันสำปะหลัง แป้งมัน ยางพารา สินค้าประมง ตลอดจนกลุ่มอาหาร ที่ได้รับประโยชน์เต็มที่ ซึ่งคาดว่าช่วยสนับสนุนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการผลักดันอาหารไทยเป็นอาหารโลก และทำให้ไทยก้าวสู่เป็นผู้นำการส่งออกอาหารอันดับต้นๆ และอันดับหนึ่งของโลกได้
นอกจากนี้ยังจะช่วยผลักดันการส่งออก ภาคบริการและการลงทุน ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงเรื่องภาพยนตร์บันเทิง เอนิเมชัน และการทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับภาคบริการ ที่มีศักยภาพขึ้นมาในระดับโลกได้ ดังนั้นไทยต้องเร่งเตรียมตัว เพื่อรองรับข้อตกลงที่เปลี่ยนแปลงไปบางส่วนและข้อตกลงใหม่ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ รวมถึงเร่งศึกษากฎระเบียบ โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมจะเข้าไปดูแลให้ข้อมูล เพื่อให้ภาคเอกชนปรับตัวและใช้ประโยชน์ได้
และหลังจากนี้ ทั้ง 15 ประเทศต้องทำ 2 เรื่อง คือ การทำให้อินเดียมีโอกาสเข้ามาร่วมมือในอาร์เซ็ปในอนาคต หลังจากมีการพักเจรจาชั่วคราว ขณะเดียวกันทุกประเทศต้องเร่งให้สัตยาบัน เพื่อความตกลงมีผลบังคับใช้ ซึ่งในส่วนอาเซียนต้องให้สัตยาบันเกิน 6 ประเทศ บวกกับประเทศที่เหลืออีก 3 ประเทศอ คาดว่าน่าจะบังคับใช้ได้กลางปีหน้า
สำหรับการให้สัตยาบันของไทย ขณะนี้ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว และจะเร่งผลักดันนำวาระการลงนามอาร์เซ็ปเสนอเข้ารัฐสภา เพื่อให้พิจารณาได้ทันประชุมสมัยนี้ ซึ่งเริ่มประชุมเปิดระหว่างเดือนพ.ย.2563-ก.พ.2564 หากผ่านความเห็นชอบ ก็จะเข้าสู่กระบวนให้สัตยาบันร่วมกับประเทศอื่นต่อไป
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE