รีเซต

ส่อง "เศรษฐกิจแมว" ตลาดจีนโตแรงแซงน้องหมา

ส่อง "เศรษฐกิจแมว" ตลาดจีนโตแรงแซงน้องหมา
TNN ช่อง16
23 ตุลาคม 2568 ( 10:28 )
20

ในยุคปัจจุบันมีรูปแบบการดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization) เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบางกลุ่มเจ้าของอาจมีวิวัฒนาการสู่การเลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวแบบตามใจ หรือเรียกว่า “ทาสหมา-ทาสแมว” (Petriarchy)  ที่เจ้าของเลือกที่จะซื้อของให้สัตว์เลี้ยงเพื่อตอบสนองความพอใจส่วนตน ทำให้อุตสาหกรรมการค้าที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตแรง 


โดยเฉพาะ “ทาสแมว”  กำลังจะครองโลกแซง "ทาสหมา"  เนื่องจากเริ่มมีความนิยมเลี้ยงแมวกันมากขึ้น เทรนด์นี้เริ่มเกิดขึ้นในหลายประเทศ  อาทิ  จีน 


ทั้งนี้ ข้อมูลจาก “สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน” กระทรวงพาณิชย์ ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์เรื่อง  “ส่องวงการ เศรษฐกิจแมว(猫经济) อุตสาหกรรมการค้าที่เป็นมากกว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยง”  ระบุว่า จากผลสำรวจอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในประเทศจีนของปี 2568 พบว่านับตั้งแต่ปี 2563-2567 อัตราความนิยมการซื้อขายแมวมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง 


โดยจากเดิมในปี พ.ศ.2563 มีปริมาณ 48,620,000 ตัว/ปี มูลค่าตลาดคิดเป็น 88,400 ล้านหยวน (403,104 ล้านบาท) สามารถไต่ระดับไปถึง 71,530,000 ตัว/ปี ในปีพ.ศ.2567 รวมมูลค่าตลาดการซื้อขายแมวกว่า 144,500 ล้านหยวน (6,589,200 ล้านบาท) คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 60  ภายในระยะเพียง 5  ปี  ซึ่งแนวโน้มของตลาดการซื้อขายแมวดังกล่าวมีการเติบโตอย่างรอบด้าน จนเกิดเป็นศัพท์บัญญัติใหม่ว่า วงการ “เศรษฐกิจแมว(猫经济)”


ขณะที่จากผลสำรวจกลุ่มผู้เลี้ยงแมว สามารถแบ่งอัตราส่วนเป็นผู้บริโภคเพศหญิงได้ร้อยละ 60.5 ผู้บริโภคเพศชายร้อยละ 39.5  โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 16-35 ปี ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับแมวมีแนวโน้มพัฒนาไปสู่ “อุตสาหกรรมใหญ่” ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายชนิดพันธุ์แมว ธุรกิจอาหารสัตว์ การบริการสัตว์เลี้ยง  ล้วนอาจสร้างมูลค่ามหาศาลเกินกว่าหลักล้านล้านบาท 


สอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานการค้าประจำเซี่ยงไฮ้ กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) ระบุว่า ตลาดอาหารแมวในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2566 ขนาดตลาดอาหารแมวมีมูลค่า 71,000 ล้านหยวน หรือ 9,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 จากปีก่อนหน้า และขนาดตลาดอาหารสุนัขมีมูลค่า 74,800 ล้านหยวน หรือ 10,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 

ปัจจุบัน“สูตรผลิตภัณฑ์อาหารแมว”  ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เลี้ยงแมว โดยอาหารแมว “สูตรเนื้อสดและสูตรไม่ผสมธัญพืช” ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด และเป็นเจ้าตลาดหลักในวงการผลิตภัณฑ์อาหารแมว ขณะเดียวกัน อาหารแมว “สูตรเนื้อปลา” ก็ได้มีอัตราการเติบโตมากขึ้นเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับสูตรอาหารประเภทอื่น 


ส่วนอาหารแมวที่ “สรรพคุณเฉพาะ” นั้น ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพและบำรุงระบบย่อยอาหารสำหรับแมวมียอดขายสูงที่สุด  แต่สินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือ “ผลิตภัณฑ์ชะลอวัยและบำรุงข้อ”  ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและการขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์สุขภาพสัตว์เลี้ยง ที่มุ่งเน้นการผสมผสานระหว่าง “โภชนาการที่แม่นยำและสรรพคุณที่หลากหลาย” เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของผู้บริโภค ตั้งแต่ “กินให้อิ่ม” ไปจนถึง “กินให้อร่อยและกินเพื่อสุขภาพ”


 “เซียนหล่าง (鲜朗)” หรือ Rosy Fresh คือหนึ่งในตัวอย่างแบรนด์อาหารสำหรับแมวที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานเพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยยึดถือ “ความสดใหม่” เป็นจุดเด่นหลักของแบรนด์ อาศัยการใช้เทคโนโลยีการคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพพิเศษ และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด  


โดยจากข้อมูลดัชนี 10 อันดับธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารแมวประจำปี พ.ศ.2568 โดย huo1818.com  พบว่า แบรนด์เซี่ยนหล่าง มีดัชนีอยู่ที่ 1574.9 ซึ่งถือเป็นอันดับที่สูงที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์อาหารแมวจากประเทศจีน และเป็นรองเพียง Royal Canin แบรนด์สินค้าผลิตภัณฑ์อาหารแมวชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น


ทั้งนี้ “เซียนหล่าง” เริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในปี พ.ศ.2557 ด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ป่น แต่หลังจากปีพ.ศ.2560 เซียนหล่างเริ่มหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์สดแทน โดยได้ปรับปรุงกรรมวิธีการอบเนื้อสด เป็นใช้วัตถุดิบจากเนื้อสัตว์ร้อยละ 93  ปราศจากน้ำมันและสารแต่งสี รวมถึงใช้ระบบขนส่งแบบห่วงโซ่ความเย็น (Cold Chain) โดยยึดหลักที่ว่า “วัตถุดิบที่ดีเสริมสร้างสุขภาพ” และอาศัยคุณภาพความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ คุณประโยชน์ตามหลักโภชนาการ และการรับประกันคุณภาพ เป็นจุดขายสำคัญที่สร้างผลตอบรับอย่างดี 


นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า ผลิตภัณฑ์สินค้าสำหรับแมวชนิดอื่นๆ ยังคงขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารแมวซึ่งมียอดขายที่น่าจับตามอง ทั้งยังจัดอยู่ในสินค้าที่มีความจำเป็นที่สุดสำหรับกลุ่มผู้บริโภคผู้รักแมว ในขณะเดียวกัน อัตราการบริโภคผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพแมวและขนมสำหรับแมวก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากตามลำดับ 


ขณะที่ ผลิตภัณฑ์สินค้าประเภทใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างอุปกรณ์เดินเล่นสำหรับแมว การบริการชีวิตสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับสัตว์เลี้ยงล้วนมีอัตราการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ กล่าวคือ อาหารแมวซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐานยังคงได้รับความนิยมและมีอัตราการขยายตัวที่มั่นคง ขณะเดียวกัน สินค้าประเภทใหม่ ได้ถูกคิดค้นขึ้นและกำลังเติบโตในวงการเศรษฐกิจแมวต่อไปในอนาคต 


การขยายขอบเขตสินค้าภายใน “เศรษฐกิจแมว” เกิดจากความต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพสูง ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับความหลากหลายและคุณภาพของสินค้าประเภทต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต

สำหรับ  “เมืองเซี่ยเหมิน” ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงด้านตลาดสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะธุรกิจสินค้าและการบริการสำหรับแมว ปัจจุบันภายในตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยงมีร้านค้ามากกว่า 100 แห่ง โดยจำนวนกิจการซื้อขายเฉพาะแมวมีราว 30 แห่ง มีการซื้อขายชนิดพันธุ์แมวตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นหยวน (ประมาณ 46,000บาท) ต่อตัว มีโรงพยาบาลและคลินิกสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการจดทะเบียนกว่า 42 แห่ง ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อาศัยแมวเป็นจุดขาย เช่น ถนนแมวติ่งเอ้าไจ่ (顶澳仔猫街) พิพิธภัณฑ์แมวเหมียว (猫咪博物馆) ตลอดจนธุรกิจคาเฟ่แมวกว่า 37 แห่ง 


นอกจากนี้ ภายในเมืองเซี่ยเหมินยังมีการจัดนิทรรศการสัตวเลี้ยงประจำปี โดยเฉพาะการจัดแสดงสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจแมว อย่างนิทรรศการอุตสาหกรรมเศรษฐกิจแมว CEIE (猫经济产业创新博览会) หรือ นิทรรศการแมว (猫博会) ที่จัดในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี ซึ่งรวบรวมผู้ประกอบการด้านสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์สำหรับแมวกว่า 2,000 รายการ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 20,000 คน ทั้งยังมีการจัดการประกวดชนิดพันธุ์แมว การแสดงปีนป่าย และการเปิดคูหาจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแมว 


ผู้ประกอบการไทยที่มีความสนใจส่งออกอาหารแมวและผลิตภัณฑ์สำหรับแมวในตลาดจีนโดยเฉพาะในมณฑลฝูเจี้ยนและเจียงซี สามารถใช้นิทรรศการดังกล่าวเป็นช่องทางในการสำรวจตลาด และศึกษาแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมวงการเศรษฐกิจแมวในประเทศจีนได้


สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน มีความเห็นว่า  “เศรษฐกิจแมว” หรือ อุตสาหกรรมสินค้าและการบริการสำหรับแมวในประเทศจีนยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และคาดว่าจะมีการขยายขอบเขตของสินค้าและบริการให้มีความครอบคลุมอย่างครบวงจรในอนาคตต่อไป 


โดยกลุ่มผู้เลี้ยงแมวในปัจจุบันมีความกำลังซื้อ และในขณะเดียวกันก็มีความต้องการที่หลากหลาย ละเอียดอ่อน และให้ความใส่ใจพิถีพิถันกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับแมวที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้ “เศรษฐกิจแมว” มีอัตราการเติบโตมากเป็นพิเศษกว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นอย่าง สุนัข หรือ ปลาสวยงาม


ดังนั้นผู้ประกอบการไทยด้านผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงสามารถอาศัยจุดแข็งของประเทศไทยที่มีวัตถุดิบและระบบการการผลิตที่มีมาตรฐาน รวมถึงการใช้ผลการวิจัยด้านโภชนาการสำหรับแมว และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ร่วมด้วย เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการเจาะตลาดอาหารแมวในประเทศจีน โดยอาจใช้กรณีศึกษาของแบรนด์อาหารแมวชื่อดังอย่างเซียนหล่าง ในการปรับปรุงพัฒนาวงการผลิตภัณฑ์อาหารแมวในประเทศไทยเพื่อเจาะตลาดจีนต่อไป  


สำหรับข้อมูลการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแมวของไทยไม่ตัวเลขแยกเฉพาะ มีแต่ข้อมูลที่รวมอยู่ในหมวดการส่งออกสินค้าอาหารสุนัขและแมว (พิกัดศุลกากร 230910)  ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า  ในปี 2567 ไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารสุนัขและแมว อันดับที่ 2 ของโลก ด้วยมูลค่า 2,677.03 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 29 เทียบกับปีก่อนหน้า และมีสัดส่วนร้อยละ 10 ของมูลค่าส่งออกอาหารสุนัขและแมวของทั้งโลก ตามหลังเยอรมนี ที่ครองอันดับที่ 1 มาหลายปี 


โดยเยอรมนีส่งออกเป็นมูลค่า 3,282.69 ล้านเหรียญสหรัฐ (สัดส่วนร้อยละ 12.3 ของมูลค่าส่งออกรวมของโลก)  สำหรับประเทศผู้ส่งออกสำคัญอื่น ๆ รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (มูลค่าการส่งออก 2,520.71 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 9.4) โปแลนด์ (มูลค่าการส่งออก 2,408.40 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 9.0) และฝรั่งเศส (มูลค่าการส่งออก 2,307.87 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วนร้อยละ 8.6)  ส่วนข้อมูลล่าสุดการส่งออกช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 ไทยส่งออกอาหารสุนัขและแมวเป็นมูลค่า 1,685.74 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 10.72 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า  


สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์  ระบุว่า หากสามารถสร้างมาตรฐานและภาพลักษณ์สินค้าไทยด้วยการวิจัยและพัฒนา เพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศ สร้างสรรอาหารสัตว์เลี้ยงรูปแบบใหม่ ๆ ที่เสริมสร้างสุขภาพและให้คุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย เพื่อสามารถเข้าถึงตลาดตามความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มแต่ละประเทศ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของการส่งออกอาหารสุนัขและแมวของโลกได้ในไม่ช้า


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง