ภาครัฐเดินหน้าหาแนวทางแก้หนี้ครัวเรือน บล.เอเซียพลัสเลือก KTB-BBL-TTB หุ้นเด่น

#หุ้นแบงก์ #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส
ภาครัฐเดินหน้าหาแนวทางแก้หนี้ครัวเรือน
• ภาครัฐเดินหน้าหาแนวทางแก้หนี้ครัวเรือนและปัญหา NPL ซึ่งทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลมองว่าจะใช้มาตรการผสมผสานหลายรูปแบบ โดยสินเชื่อบ้าน จะเสนอให้ใช้การยืดเวลาผ่อนชำระให้ยาวนานขึ้น และสินเชื่อบัตรเครดิต&บุคคล ผ่านการซื้อหนี้และให้AMC บริหาร เนื่องจาก NPL ในกลุ่มนี้ ธ.พ. มีการตั้งสำรองครบแล้ว ด้านสินเชื่ออื่นๆทางภาครัฐยังไม่มีแนวคิดเข้าไปบริหารจัดการ (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 27 มี.ค. 68)
.
• ฝ่ายวิจัยมีมุมมองกลางต่อประเด็นข้างต้น เพราะการแก้หนี้บ้าน ผ่านการขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ สอดคล้องกับแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ ตามหลักการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending : RL) ของ ธปท. ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการสินเชื่อต้องเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหาชำระหนี้ก่อนเป็น NPL 1 ครั้ง และหลังเป็น NPL อีก 1 ครั้ง ก่อนโอนขายลูกหนี้ หรือยึดทรัพย์
.
• แม้การขยายเทอมชำระหนี้ จะส่งผลต่อดอกเบี้ยรับ แต่จะได้ประโยชน์จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นเข้ามาทดทแน โดย ธ.พ. ที่มีสัดส่วนสินเชื่อบ้านสูง 3 อันดับแรก ได้แก่ SCB (32% ของพอร์ต) TTB (26% ของพอร์ต) และ KTB (19% ของพอร์ต)
.
• ด้านแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็น NPL สินเชื่อบัตรเครดิตและบุคคล เนื่องจากปกติแล้วหนี้ NPL กลุ่มนี้ทางธ.พ. มีการ Write-off ค่อนข้างไว ส่วนใหญ่จึงออกจากงบดุลของ ธ.พ. ไปแล้ว หากกำหนดเงื่อนไขซื้อเฉพาะกลุ่มที่ค้างชำระเกิน 1 ปี คาดประโยชน์ต่องบดุลไม่มาก แต่คาดหวังผลบวกต่องบกำไรขาดทุนเล็กน้อย (มองราคารับซื้อ NPL ไม่แพง เพราะหนี้กลุ่มนี้ ธ.พ. ตั้งสำรองครบ 100% แล้ว) ผ่านหนี้สูญรับคืนที่มีโอกาสรับรู้เร็วขึ้น
.
• สำหรับ ธ.พ. ที่มีสัดส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตและบุคคลสูง นำโดย KTB สัดส่วน 26% ของสินเชื่อ (ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าราชการ หากนับเฉพาะพอร์ตของ KTC อยู่ที่ 4% ของสินเชื่อ KTB) ตามด้วย BAY (สัดส่วน 9% ของสินเชื่อ) KBANK SCB และ TTBประมาณ 6% ของพอร์ตสินเชื่อ
.
• คงเลือก KTB, BBL และ TTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ ตามเดิม จากราคายังมี Upside
รวมถึงมองว่าการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ของ 3 ธนาคาร ทำได้ดีกว่ากลุ่มฯ ช่วยให้
การตั้งสำรองลดลง ชดเชยผลจากรายได้ที่อ่อนแอ ตามวงจรดอกเบี้ย