รีเซต

หุ้น JDF เทรดวันแรกราคาเปิด 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 23.08% จาก IPO

หุ้น JDF เทรดวันแรกราคาเปิด 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 23.08% จาก IPO
ทันหุ้น
7 เมษายน 2565 ( 10:14 )
300
หุ้น JDF เทรดวันแรกราคาเปิด 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 23.08% จาก IPO

#JDF #ทันหุ้น-บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด(มหาชน) หรือ JDF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) เป็นวันแรกราคาเปิดอยู่ที่ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 23.08% จากราคา IPO ที่หุ้นละ 2.60 บาท ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ราคาเป้าหมายที่ 4.00 บาทต่อหุ้น 

 

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น JDF เช้านี้ราคาเปิดที่ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 23.08% จากราคา IPO ที่หุ้นละ 2.60 บาท โดยล่าสุดราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 3.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 46.15% มีมูลค่าการซื้อขาย 1,179.54 ล้านบาท 

JDF เป็นผู้ผลิตเครื่องปรุงรสอาหาร ซอส ไส้ขนม อาหารอบแห้ง ขนมขบเคี้ยวประเภทมะพร้าวอบกรอบ และซุปกึ่งสำเร็จรูป ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 390 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,560 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 25.78 เท่าโดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

 

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้เพื่อขยายช่องทางตลาดไปยังต่างประเทศลงทุนในการวิจัยและพัฒนาและระบบเทคโนโลยีสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการเติบโตชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

**ฟินันเซีย ไซรัส ให้ 4 บาท/หุ้น

 

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ราคาเป้าหมายหุ้น JDF ที่หุ้นละ 4 บาทต่อหุ้น โดยเทียบเคียงกับบริษัทในตลาดที่มีธุรกิจใกล้เคียงกัน ได้แก่ RBF, XO  และ GLOCON และบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมประเภทเดียวกับลูกค้าของบริษัท TFMAMA, SNNP,  TKN, M , ZEN และ OISHI รวมทั้ง 9 บริษัท ที่ซื้อขายพี/อี เฉลี่ย 23.4 เท่า โดย Target PE ที่ฝ่ายวิจัยให้ถือว่าเหมาะสมเพราะยังต ่ากว่า PE เฉลี่ยของบริษัทที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันในระดับโลก (มีบริษัทย่อยในไทย) ซึ่งเทรดที่ 29.5 เท่า 

 

ฝ่ายวิจัย ประเมินกำไรของ JDF ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในปี 2563-2564 ที่ถูกกระทบจากโควิด และมีการย้ายโรงงานใหม่ต้องรับรู้ค่าเสื่อมสูงขึ้น ทำให้มีกำไรสุทธิอ่อนตัวลง คาดโควิดจะทยอยคลี่คลาย ทำให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทมีแผนพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่นเครื่องปรุงรสสำหรับอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทาน, เนื้อสัตว์ปรุงรสแปรรูป, ผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งชุดทอดส าเร็จรูป, โปรตีนอบกรอบ, ผักผลไม้อบกรอบ และ Plant-based Products เป็นต้น 

 

และด้วยอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่ที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทได้ประโยชน์จาก Economies of Scale อีกครั้ง ช่วยหนุนการฟื้นตัวของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น จึงคาดกำไรสุทธิปี 2565 ฟื้นตัวดี +106% Y-Y และคาดอัตราการเติบโตของก าไรเฉลี่ย 3 ปีสูงราว CAGR 21.7% 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง