แฟรนไชส์กาแฟดังปิด 2 สาขาในจีน-หลังสื่อเปิดโปงขายของ “หมดอายุ”
แฟรนไชส์กาแฟดังปิด - วันที่ 13 ธ.ค. รอยเตอร์และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า บริษัท สตาร์บัคส์ แฟรนไชส์กาแฟยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา สั่งปิดร้านสาขา 2 แห่งในประเทศจีน
ภายหลังหนังสือพิมพ์ปักกิ่งนิวส์รายงานจากการแฝงตัวเพื่อตรวจสอบกรณีใช้วัตถุดิบหมดอายุของร้านสตาร์บัคส์ 2 แห่งในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นใช้มัทฉะหมดอายุทำเครื่องดื่มลาเต้ และขายขนมหมดอายุที่ควรทิ้ง
โฆษกสตาร์บัคส์ระบุในแถลงการณ์ว่า “เรารับฟังรายงานของสื่อท้องถิ่นอย่างจริงจัง และได้ปิดร้านทั้งสองแห่งที่เป็นปัญหาในทันทีเพื่อดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด” และว่าตั้งแต่เข้าสู่ตลาดในประเทศจีนเมื่อ 22 ปีก่อน สตาร์บัคส์มุ่งมั่นรักษามาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารที่เข้มงวด นอกจากนี้บริษัทยินดีรับข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่องจากทั้งสื่อมวลชนและสาธารณชน
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากการเปิดโปงกลายเป็นกระแสถกเถียงบนโลกออนไลน์ของจีน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้บริโภคชาวจีนและสื่อมีความดุดันมากขึ้นในการปกป้องสิทธิลูกค้าและจับผิดพฤติกรรมของแบรนด์ใหญ่ๆ โดยเฉพาะแบรนด์ต่างชาติ
ขณะเดียวกันหัวข้อข่าวการตอบสนองของสตาร์บัคส์ต่อกรณีเปิดโปงของปักกิ่งนิวส์ มีผู้เข้าดูมากกว่า 50 ล้านครั้งบนเว็บไซต์เว่ยป๋อ ชาวเน้ตหลายคนแสดงความคิดเห็นผิดหวังกับมาตรฐานของร้านระดับโลก และกังวลว่าปัญหาในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับสาขาอื่นๆ ด้วย
หนึ่งในผู้ใช้เว่ยป๋อระบุว่า “ถ้าสตาร์บัคส์ยังเป็นแบบนี้ ร้านอื่นๆ ก็ทำให้ฉันกังวลมากๆ” อีกคนว่า “พวกเขาโดนตรวจสอบเพราะเป็นร้านต่างชาติ แล้วร้านในประเทศล่ะจะเป็นอย่างไร”