รีเซต

THANA แตกไลน์รีโนเวต เร่งระบายสต๊อก 300 ล้าน

THANA แตกไลน์รีโนเวต เร่งระบายสต๊อก 300 ล้าน
ทันหุ้น
16 กันยายน 2568 ( 23:50 )
1

              นายสุทธิรักษ์  เสถียรภาพอยุทธ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการขยายฐานธุรกิจใหม่เพิ่มเติม โดยในส่วนของธุรกิจรับเหมาต่อเติมและการปรับปรุง (รีโนเวต) จากเดิมที่มาจากการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการขายเป็นหลัก และขยายช่องทางสร้างรายรับให้กว้างขึ้น 

                 เบื้องต้นรูปแบบการดำเนินธุรกิจดังกล่าวนั้นทาง THANA จะให้ความสำคัญกับลูกค้าภายใต้แบรนด์ของธุรกิจและบริษัทในเครือที่ได้มีการจำเป็นไปแล้วไปในช่วงที่ผ่านมาประมาณ 3,000-4,000 ยูนิต เพราะมองเห็นโอกาสจากความต้องการ (ดีมานด์) รีโนเวตและซ่อมแซมของลูกค้าเหล่านี้ที่ขยายตัวมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจและสนับสนุนลูกค้ารายใหม่ๆ ของบริษัทเพิ่มเติม ตลอดสนับสนุนธุรกิจในปี 2568 และในอนาคตต่อไป

             อย่างไรก็ดี แนวทางการดำเนินงานของบริษัทในช่วงที่เหลือปีนี้คงมุ่งทำตลาดของโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมโอน (สต๊อก) ในทำเลต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล  คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท หวังสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้ภาพรวมธุรกิจเป็นไปตามที่ประเมินไว้

             ทั้งนี้ จากข้อมูลบริษัทมียอดขายที่รอโอน (Backlog) ล่าสุดของบริษัทอยู่ที่ราว 185 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะสามารถดำเนินการทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2568 อีกประมาณ 80% ส่วนในแง่ของตัวเลข Backlog ที่เหลือคงต่อเนื่องในช่วงถัดไป

             ขณะที่แนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี 2568 ทาง THANA เติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ผลมาจากการทำกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค นอกเหนือจากการผ่อนคลายเชิงนโยบายทางการเงินต่างๆ ที่เข้าช่วยเสริม

               โดยในส่วนของการที่ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ โดยอนุมัติให้ลด อัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ต่อปี จาก 1.75% ต่อปี เป็นเหลือที่ราว 1.50 ต่อปีเปอร์เซ็นต์ และให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมานั้นบริษัทมองเป็นผลบวกต่ออุตสาหกรรมโดยรวม และเป็นผลดีช่วยสนับสนุนยอดขายที่อยู่อาศัยของบริษัทในช่วงที่เหลือปีนี้ให้ขยายตัวต่อเนื่อง

              นอกจากนี้ยังได้ผลดีจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงินได้มีการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) เพื่อช่วยประคับประคองภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลต่อเนื่องถึงมิถุนายน 2569

              สำหรับการผ่อนคลาย LTV  ดังกล่าวนั้น โดยเฉพาะบ้านหลังที่ 2 ที่สามารถให้กู้ได้ 100% จากเดิมที่ราว 70-90% ทำให้ความสามารถของผู้ซื้อปรับตัวเพิ่มขึ้น และยังเป็นการสนับสนุนดีมานด์ของตลาดและของบริษัทในอนาคตอีกทางหนึ่ง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง