รีเซต

SNNP กางแผนปีนี้ ผนึกพันธมิตรอินโดฯตั้งบริษัท ลุยตลาดมุสลิม โชว์ผลงานปี 64 กำไรโต 3 เท่า เคาะจ่ายปันผลอีก 0.14 บาท/หุ้น

SNNP กางแผนปีนี้ ผนึกพันธมิตรอินโดฯตั้งบริษัท ลุยตลาดมุสลิม โชว์ผลงานปี 64 กำไรโต 3 เท่า เคาะจ่ายปันผลอีก  0.14 บาท/หุ้น
มติชน
28 กุมภาพันธ์ 2565 ( 18:14 )
47

ข่าววันนี้ นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2565 คาดว่าจะสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปี 2564 เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทลูกเริ่มออกดอกผล การจับจ่ายในประเทศเริ่มฟื้นตัว หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่ยอดขายในประเทศเวียดนามเติบโตอย่างโดดเด่น กลายเป็นตลาดส่งออกหลัก โดยบริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะลงทุนในการเข้าซื้อหรือจัดตั้งธุรกิจที่เกี่ยวกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อต่อยอดธุรกิจ

 

พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะจดทะเบียนได้ภายในเดือนกันยายน 2565 ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 2,000,000 ดอลลาร์ โดยบริษัท เอสเอ็นเอ็นพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท 99.99%) จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 85% ผู้ร่วมทุนถือหุ้นจำนวน 15% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ร่วมทุน เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม

 

“อินโดนีเซียเป็นตลาดของผู้บริโภคมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรกว่า 270 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประชากรของประเทศไทย และกลุ่มประเทศ CLMV รวมกัน แผนการร่วมลงทุนกับพันธมิตรในอินโดนีเซียในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขยายตลาดของสินค้าของเรา ซึ่งในปัจจุบันมีสินค้ากลุ่มเยลลี่เข้าไปทำตลาดอยู่แล้วและได้รับการตอบรับอย่างดี บริษัทฯเตรียมจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่ในอินโดนีเซีย เพื่อผลิตสินค้าเพื่อขายในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้อย่างเร็วภายในไตรมาส 4/65 หรือไม่เกินไตรมาส 1/66 สร้าง New S Curve ให้กับธุรกิจ ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายวิวรรธน์ กล่าว

 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในไทย ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นสินค้ามีกระแสการเติบโตที่ดี และมีอัตรากำไรที่สูง โดยคาดว่าน่าจะมีสินค้าป้อนตลาดได้ในช่วงปลายปี 2565 เช่นกัน

 

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4/64 นายวิวรรธน์ กล่าวว่า ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับอานิสงส์จากการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว รวมไปถึงตลาดส่งออกในเวียดนามเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ผลการดำเนินงานตลอดทั้งปี 2564 มีรายได้จากการขาย 4,277.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 437.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 93.8 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เมษายน 2565 และจ่ายเงินวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ทั้งนี้ บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.10 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.24 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 256

ข่าวที่เกี่ยวข้อง