โผอีก6ราย ขายหน้ากาก-เจลล้างมือสูงเกินจริง ราชบุรีจับขายไข่แพง1ราย
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ณ วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เพิ่มอีก 6 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 1 ราย เป็นร้านขายยาพบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาสีฟ้า บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 890 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 17.80 บาท) แจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29 ส่วนในต่างจังหวัดสามารถจับกุมเพิ่ม 5 ราย แยกเป็นการกระทำความผิด ตามมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จำนวน 4 ราย ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ 1 ราย จังหวัดสกลนคร 1 ราย จังหวัดสมุทรสาคร 1 ราย และจังหวัดอุดรธานี 1 ราย (จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก) นอกจากนี้ในจังหวัดอุดรธานี ยังพบผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากกากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินราคาที่กำหนด ตามมาตรา 25
โดยสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 342 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 160 ราย และต่างจังหวัด 182 ราย
ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นางลลิดากล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ไข่ไก่ แม้โดยรวมจะดีขึ้นแต่กระทรวงพาณิชย์ ยังคงติดตามตรวจสอบ จับกุมผู้กระทำความผิดตามข้อร้องเรียนทุกวัน โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่ราคาแพงเกินสมควรเพิ่ม 1 ราย ในจังหวัดราชบุรี ทำให้สถิติการจับกุมดำเนินคดีเรื่องไข่ไก่ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 27 ราย
ขอย้ำเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมกักตุนสินค้า และค้ากำไรเกินควร ซึ่งถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชนไม่ว่าจะเป็นสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าจำเป็นอื่น ๆ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หากพบมีการที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทันที ทั้งนี้ผู้บริโภคพบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร สามารถร้องเรียนได้ทันทีที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569และ ในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด นางลลิดากล่าว