"กลุ่มอิเล็กฯ" ห่วง"ภาษีทรัมป์"ฉุดลงทุนไทย

ดร.สัมพันธ์ ศิลปนาฏ นายกสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ และอุปนายกสมาคมเซมิคอนดักเตอร์ไทย กล่าวในงานกรุงเทพธุรกิจ Roundtable : The Art of The (Re)Deal จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ว่า มีความกังวลหากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ถูกเก็บภาษีในอัตราในระดับสูง และสูงกว่าประเทศคู่แข่ง 

โดยจะส่งผลกระทบในระยะแรกคือ การลดกำลังการผลิต การลดค่าทำงานล่วงเวลา(โอที) พนักงานทยอยลาออก ซึ่งความไม่แน่นอนนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

ส่วนช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเห็น การขอการลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์จากบีโอไอมีสัดส่วนสูงมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35 ถือว่าสูงเป็นวัติศาสตร์ ส่วน 4 เดือนแรก ปี 68 นั้นมีสัดส่วนร้อยละ 43 ซึ่งมองว่าตัวเลขนี้จะลดลง หากถูกจัดเก็บอัตราภาษีในระดับที่สูงและสูงกว่าประเทศคู่แข่ง อีกทั้งเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาปฏิรูปประเทศใน 5-10 ปี เพื่อให้มีอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน  ดังนั้น จะต้องสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนเพื่อไม่ให้สูญเสียโอกาสที่รุนแรงมากกว่าประเทศอื่น

ส่วนยอดส่งออกในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ในช่วงครึ่งปีแรก มีสัดส่วนที่สูงมาก จากความไม่แน่นอนดังกล่าว จึงได้มีการเร่งผลิตและส่งออก จากคำสั่งซื้อที่ไม่เป็นความจริงขึ้นมาอยู่บนพื้นฐานความจริง ส่วนช่วง 6 เดือนสุดท้ายปี 68 จะเห็นผลกระทบหากไทยถูกเก็บภาษีสูงกว่าคู่แข่ง

อย่างไรก็ตาม เรื่องการเจรจากับสหรัฐฯ จะมีความชัดเจนในวันที่ 1 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งตนไม่เชื่อว่าการเจรจานี้จะจบในวันที่ 1 สิงหาคม โดยประเมินว่าอาจจะต้องใช้เวลา ในการเจรจา 1-2 ปี จึงจะสำเร็จ ซึ่งในช่วงระยะเวลานี้ การให้ความชัดเจนแก่ภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ ของรัฐบาลจึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย

ส่วนข้อกังวลว่าหากไทยถูกเก็บภาษีจากสหรัฐฯ สูงจะทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิต ในภาคอิเล็กทรอนิกส์กลับไปยังสหรัฐ ไม่เกิดขึ้นง่ายๆ เนื่องจากการย้ายฐานการผลิตใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งหากมาดูโครงสร้างรายกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น การจะลงทุนในสหรัฐหากไม่มี ตัวช่วย จะเป็นไปได้ยาก 

แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ การขออนุมัติการลงทุนรายใหม่ยังคงชะลอเพื่อรอความชัดเจน