รีเซต

SCGP ปิดดีลคว้า MYPAK ผู้ผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกเบอร์ใหญ่ในอินโดนีเซีย 100%

SCGP ปิดดีลคว้า MYPAK ผู้ผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกเบอร์ใหญ่ในอินโดนีเซีย 100%
ทันหุ้น
9 ธันวาคม 2568 ( 13:51 )
26

#ทันหุ้น #SET #SCGP ปิดดีลคว้า MYPAK ผู้ผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกเบอร์ใหญ่ในอินโดนีเซีย 100% ทุ่มเงิน 981 ล้านบาท เสริมกำลังผลิต 144,000 ตัน/ปี พร้อมสร้าง Synergy ขยายฐานลูกค้าระดับโลก

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) แจงการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน %100 ใน PT Prokemas Adhikari Kreasi (“MYPAK”) ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ตามที่ได้เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 และการชำระเงินค่าหุ้นทั้งหมด %100 เป็นเงิน 467 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณ 981 ล้านบาท) 

โดยธุรกรรมดังกล่าวดำเนินการผ่าน 2 บริษัทย่อย ได้แก่ TCG Solutions Pte. Ltd. (“TCGS”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยบริษัท กลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด (“TCG”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SCGP และ Rengo Company Limited ประเทศญี่ปุ่น ที่สัดส่วน %70:%30 ตามลำดับ และบริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด (“SKIC”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด โดย TCGS และ SKIC จะถือหุ้นใน MYPAK อัตราส่วน %60:%40 ตามลำดับ ทั้งนี้ SCGP จะเริ่มแสดงผลประกอบการของ MYPAK ในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

MYPAK เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิต 144,000 ตันต่อปี และมีฐานการผลิตอยู่ที่เมือง Bekasi ทางตะวันตกของเกาะชวา ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติและแบรนด์สินค้าชั้นนำในตลาดอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังมีศักยภาพรองรับการจัดตั้ง Inspired Solutions Studio ในประเทศอินโดนีเซีย และรองรับการขยายโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคในอนาคต

ทั้งนี้ MYPAK มีรายได้ ณ สิ้นปี พ.ศ. 2567 อยู่ที่ 846 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1,777 ล้านบาท) และมีสินทรัพย์ 1,272 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณ 2,670 ล้านบาท) ธุรกรรมข้างต้นจะช่วยเพิ่มมูลค่าและเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกของ SCGP ในประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งยกระดับการนำเสนอบริการด้านบรรจุภัณฑ์ให้รองรับฐานลูกค้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง SCGP มีแผนปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของ MYPAK ด้วยการนำแนวปฏิบัติที่ดีมาปรับใช้ การบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน และเพิ่ม Synergy กับธุรกิจอื่นของ SCGP ที่มีอยู่ทั่วประเทศ

โครงการลงทุนดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งบริษัทย่อย ที่มีขนาดรายการเท่ากับ %0.55 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCGP ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568 และเมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนก่อนหน้า จะมีสัดส่วนรวม %3.39 ดังนั้น รายการดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง