รีเซต

กรมศุลฯประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตั้งแต่บาทแรก เริ่มม.ค.69

กรมศุลฯประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตั้งแต่บาทแรก เริ่มม.ค.69
ทันหุ้น
5 พฤศจิกายน 2568 ( 13:31 )
1

#ทันหุ้น อธิบดีกรมศุลคนใหม่ ประกาศนโยบาย”Customs Quick Big Win”ประกาศลุยเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตั้งแต่บาทแรก เริ่มม.ค.69 ชี้เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการในประเทศ ดันรายได้เพิ่ม 3 พันล้าน นัดแพลทฟอร์ม”ลาซาด้า-ช้อปปี”แจ้งสำแดงราคาพร้อมขอให้ห้ามส่งสินค้าผิดกฎหมายเข้าประเทศ ขณะที่ ยกเลิกรางวัลนำจับผู้บริหารกรมฯลดข้อครหาบิดเบือนในการปฎิบัติหน้าที่

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากรเปิดเผยว่า กรมฯกำลังพิจารณายกเลิกการกำหนด De minimis value หรือ การไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าราคาต่ำ โดยจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตั้งแต่บาทแรกตั้งแต่เดือนม.ค.2569 เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการในประเทศ หรือ Revenue Collector ซึ่งกรมฯได้ขอนโยบายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบาย“Customs Quick Big Win”ที่ตนมีแผนดำเนินการภายหลังเข้าตำแหน่ง โดยนโยบายจะมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ควบคู่การปกป้องสังคมและจัดเก็บรายได้อย่างเป็นธรรม ซึ่งในแนวทางปฏิบัตินั้น จะต้องเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือน

เขากล่าวว่า แนวทางการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้น จะสอดคล้องกับการยกเลิกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ถูกจัดส่งมาจากแพลทฟอร์มต่างประเทศ เช่น ลาซาด้า และ ช้อปปี ดังนั้น เมื่อเรามีแผนจะจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าตั้งแต่บาทแรก เราต้องประสานงานกับทางแพลทฟอร์ม ซึ่งนัดหารือในวันศุกร์นี้ เพื่อขอให้ทำการสำแดงสินค้าและราคาที่นำเข้ามา เพื่อให้กรมฯจัดเก็บภาษีได้ถูกต้อง โดยอัตราภาษีที่จัดเก็บจะเป็นไปตามพิกัดของแต่ละสินค้า

“หลังจากที่เราจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาทตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 67 เรามีรายได้จากภาษีดังกล่าวประมาณ 2 พันล้านบาท หากเราเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตั้งแต่บาทแรก เราจะมีรายได้ราว 3 พันล้านบาท จากสินค้านำเข้าราคาต่ำที่ส่งมาจากแพลทฟอร์มราว 3 หมื่นล้านบาทต่อปี”เขากล่าวและว่า แนวทางการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าราคาต่ำนั้น ไม่ขัดต่อข้อตกลงทางการค้า ซึ่งมีหลายประเทศได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ตนยังมีนโยบายที่ใช้มาตรการทางศุลกากรเพื่อกระตุ้นให้เกิดการค้า หรือ Trade Enabler โดยเร่งปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้า–ส่งออก ปรับกระบวนการตรวจสินค้าสู่มาตรฐานสากลเพื่อลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการที่สุจริต เร่งคืนภาษี เงินวางประกัน และเงินชดเชย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องแก่ภาคธุรกิจนอกจากนี้ ยังสนับสนุนการจัดทำ FTAs เพื่อขยายตลาดส่งออกของประเทศ เพิ่มสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ AEO (Authorized Economic Operator) ส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ปรับปรุงพิธีการถ่ายลำและผ่านแดน ลดระยะเวลาการตรวจปล่อยสินค้า รวมถึงเปิดโอกาสให้ ICD (Inland Container Depot) สามารถตรวจปล่อยสินค้าขาออกได้โดยตรง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชนอย่างแท้จริง

ในด้านการปกป้องสังคมจากสินค้าผิดกฎหมาย หรือ Social Protector กรมฯจะดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าทุ่มตลาด สินค้าปลอมแปลงถิ่นกำเนิด และสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยจะขอให้แพลตฟอร์มต่างๆ ควบคุมการจำหน่ายของผิดกฎหมาย

เขากล่าวด้วยว่า นอกจากกรมฯจะมีนโยบายเพิ่มความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการแล้ว ยังต้องเพิ่มปริมาณการค้าให้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ กรมฯจะเร่งคืนเงินค้างจ่ายจากการอุทธรณ์ให้แก่ผู้ประกอบการ ขณะเดียวกัน ตนจะยกเลิกเงินรางวัลนำจับผู้กระทำความผิดของระดับผู้บริหาร เพื่อลดข้อครหาการใช้เงินรางวัลเป็นแรงจูงใจในการพิจารณาคดีอุทธรณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง