นักวิทย์ระบุโควิด-19 จะอยู่คู่กับมนุษย์ไปตลอดกาล

วันนี้ ( 23 ส.ค. 63 )องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ออกคำแนะนำให้เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ควรสวมหน้ากากอนามัย เช่นเดียวกับการปฏิบัติของผู้ใหญ่ โดยองค์การอนามัยโลก ยอมรับว่า มีหลักฐานน้อยมากที่จะรู้ว่าเด็ก ๆ แพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไร แต่ก็อ้างหลักฐานว่า บรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวสามารถแพร่เชื้อได้ในลักษณะเดียวกับผู้ใหญ่ WHO บอกด้วยว่า เด็กที่อายุ 5 ขวบและต่ำกว่า ปกติไม่ควรสวมหน้ากากอนามัย

ขณะที่ มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก แล้วมากกว่า 800,000 ราย และติดเชื้อกว่า 23 ล้านคน มากที่สุดอยู่ในสหรัฐ, บราซิลและอินเดีย อย่างไรก็ตาม จำนวนที่แท้จริงของคนที่ติดเชื้อไวรัสมรรณะ เชื่อว่าน่าจะสูงกว่านี้มาก เนื่องจากการตรวจสอบหาเชื้อยังไม่เพียงพอ และยังมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการอีกจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มสูงขึ้นอีกในหลายประเทศ เช่นเกาหลีใต้, สหภาพยุโรป และเลบานอน ก่อนหน้านี้ นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เขาหวังว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 จะสิ้นสุดใน 2 ปี แต่กลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ในสหราชอาณาจักร เตือนว่า ไม่มีทางที่จะขุดรากถอนโคนไวรัสโควิดได้ ประชาชนจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเป็นประจำเพื่อป้องกันการติดไวรัสชนิดนี้  

นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของสหราชอาณาจักร คาดการณ์ว่า ไวรัสโควิด-19 จะอยู่คู่มนุษย์ตลอดกาลในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้น การฉีดวัคซีนเป็นประจำเท่านั้น จึงจะต้านทานไวรัสร้ายนี้ได้ 

โดยเซอร์ มาร์ค วอลพอร์ต สมาชิกของกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์เพื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเอสเอจีอี ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ระบุเมื่อวันเสาร์ว่า ไวรัสโควิด-19 มีลักษณะแตกต่างจากโรคระบาดอื่น ๆ เช่นไข้ทรพิษที่สามารถกำจัดให้หายขาดได้ด้วยการฉีดวัคซีน แต่โควิดดูเหมือนจะไม่ถูกทำลายได้อย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกัน เขาเชื่อว่า “การฉีดวัคซีนทั่วโลก” เท่านั้น จึงจะควบคุมการระบาดของไวรัสที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ได้