รีเซต

รวมทุกข้อสงสัย ขั้นตอนการเคลมประกัน “รถจมน้ำ น้ำท่วมรถ น้ำเข้ารถ” ต้องทำอย่างไรบ้าง

รวมทุกข้อสงสัย ขั้นตอนการเคลมประกัน “รถจมน้ำ น้ำท่วมรถ น้ำเข้ารถ” ต้องทำอย่างไรบ้าง
Ingonn
28 กันยายน 2564 ( 12:31 )
811

ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ในปีนี้ หรือ น้ำท่วม 2564 พบว่าหลายจังหวัดต้องพบกับน้ำท่วมอย่างไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้รถยนต์ ถูกจอดแช่น้ำ จากกรณี น้ำท่วมรถ น้ำเข้ารถ เพราะพายุเข้า และฝนตกหนักต่อเนื่องติดกันนานหลายวัน ซึ่งใครที่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้ สามารถเคลมประกัน ขอความช่วยเหลือจากประกันให้ช่วยจ่ายค่าเสียหาย จากเหตุน้ำท่วมรถได้

 

 

โดยทาง TrueID ได้รวบรวมขั้นตอนการเคลมประกัน กรณีที่ประกันรับเคลม เอกสารที่ใช้ รวมถึงเบอร์โทร สายด่วนประกันภัย เพื่อให้ผู้ที่ประสบอุทกภัยได้รับความช่วยเหลือจากประกันได้อย่างครบวงจร

 

 

 

รถถูกน้ำท่วม ประกันรับเคลมกรณีใดบ้าง


1.เกิดน้ำท่วมจากภัยพิบัติธรรมชาติ


กรณีจอดรถไว้ แล้วเกิดพายุ ฝนตกหนักติดกันหลายวัน ทำให้น้ำท่วม น้ำเข้ารถเสียหายไม่สามารถย้ายรถหนีได้ทัน ทางประกันรับเคลม และจะประเมินความเสียหาย หากไม่คุ้มซ่อมจะจ่ายเงิน 70-80% ของทุนประกัน

 


2.รถติดบนถนน แล้วฝนตกหนักจนน้ำท่วม


กรณีเกิดรถติดอยู่บนถนน ในวันที่มีฝนตกหนักเป็นเวลานาน ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้านรถได้ และเกิดเหตุน้ำท่วมสูง จนรถหรือตัวถังรถได้รับความเสียหาย ทางประกันรับเคลม

 

 

 

รถถูกน้ำท่วมแบบนี้ ประกันไม่จ่าย!


1.ขับรถลุยน้ำท่วม


หากขับรถเข้าไปในพื้นที่น้ำท่วมขัง จนทำให้รถ ห้องเครื่อง ระบบไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย ประกันไม่รับเคลม

 


2.สตาร์ทรถ ในสภาพที่รถถูกน้ำท่วมไปแล้ว


กรณีเจ้าของรถ ตั้งใจสตาร์ทรถ ในขณะที่รถยนต์อยู่ในสภาพถูกน้ำท่วมไปแล้ว จนเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย ประกันไม่รับเคลม

 

 

 

การจ่ายเงินความเสียหาย กรณีรถถูกน้ำท่วม

 

เสียหายโดยสิ้นเชิง (Total Loss) หรือ สภาพรถถูกน้ำท่วมรถมิดคัน (เกินช่วงคอนโซลหน้า) 


ซึ่งสร้างความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมกลับมาให้อยู่ในสภาพเดิมได้ ทางบริษัทประกันภัยจะเสนอคืนทุนประกันทดแทนให้ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ของทุนประกัน เพื่อรับโอนหรือซื้อซากรถนั้นแทน

 

 

เสียหายบางส่วน (Partial Loss) หรือ รถได้รับความเสียหายเพียงบางส่วน และบริษัทประกันรถมองว่าสามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม 


ทางบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถให้ทั้งหมด หรือตกลงชดใช้เป็นจำนวนเงินเท่ากับราคาซ่อมที่ประเมิน

 

 

 

ประเภทประกันภัยที่จะคุ้มครองการถูกน้ำท่วม 


ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

 


ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)

 


ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)

 

 

 

เอกสารที่ต้องเตรียมเคลมประกัน รถถูกน้ำท่วม


1.เอกสารเกี่ยวกับตัวรถและกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์

 


2.ใบขับขี่

 


3.สำเนาบัตรประชาชน

 


4.ภาพถ่ายขณะเกิดน้ำท่วม หรือหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยถ่ายให้เห็นทะเบียนรถ (กรณีที่ไม่ได้ท่วมมิดคัน) 

 


5.กรณีไม่มีหลักฐาน ให้บันทึกข้อมูลอย่างละเอียดที่สุด เช่น ปริมาณน้ำท่วมสูง วันและเวลาเกิดเหตุ หรือลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันประกอบ

 

 

 

ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ เมื่อรถน้ำท่วม


1.ติดต่อบริษัทประกันตลอด 24 ช.ม.

 


2.เจ้าหน้าที่บริษัทประกัน จะเข้ามาตรวจสอบและบันทึกความเสียหายที่เกิดขึ้น

 


3.เลือกอู่/ศูนย์ที่ต้องการซ่อม เพื่อประเมินราคา

 


4.บริษัทประกันพิจารณา อนุมัติการซ่อม

 


5.นัดหมายให้ทางอู่/ศูนย์ประเมินราคา

 


6.เมื่อเอกสารผ่านการอนุมัติ ก็สามารถนำรถไปส่งที่อู่หรือศูนย์ได้เลย

 

 

 

สิ่งที่ต้องรู้ “รถจมน้ำ” จากน้ำท่วม ต้องทำอย่างไรบ้าง?


1.ห้ามสตาร์ทรถหรือบิดกุญแจไปที่ ON เด็ดขาด นอกจากประกันจะไม่รับเคลมแล้ว ยิ่งทำให้ห้องเครื่องเสียหายด้วย

 


2.ถอดแบตเตอร์รี่ออกในทันที เพื่อตัดระบบจ่ายไฟ 

 


3.ตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆ เช่น พัดลมระบายความร้อน

 


4.นำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมด เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำหล่อเย็น เป็นต้น

 


5.ระบบเกียร์ ระบบรองรับ ช่วงล่าง ควรให้ช่างอัดจาระบีที่ลูกหมากใหม่ เช็กระบบเบรก  โดยเฉพาะรถระบบเบรกแบบดุม น้ำอาจเข้าได้ ต้องถอดออกมาทำความสะอาด

 

 

 

รวมเบอร์ติดต่อบริษัทประกันภัย


บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1557, 02-239-1557

 


บริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 02-257-8000

 


บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1596

 


บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1620

 


บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 02-662-8999, 02-308-9300

 


บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1484, 02-665-4000

 


บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1790

 


บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1736

 


บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1292

 


บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) : 1259

 


บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1309, 02-613-0123

 


บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 02-016-3333, 02-017-3333

 


บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 02-611-4242

 


บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 02-624-1111, 02-309-5888

 


บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) : 02-118-7400

 


บริษัท เอฟดับบลิวดีประกันภัย จำกัด (มหาชน) : 1351, 02-632-6400

 

 

 

ข้อมูลจาก www.tidlor.com , www.tlt.co.th

 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง