ทูตไทยเผย ไทยมีบทบาทสำคัญแก้ไขวิกฤตเมียนมา จับตาเลือกตั้งสิ้นปี

ในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ของกระทรวงต่างประเทศ เมื่อวานนี้ (9 มิถุนายน) ที่โรงแรม ดิ แอทธินี มีการจัดเวทีคู่ขนานสำหรับสื่อมวลชน ที่ได้ร่วมพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับเอกอัครราชทูตในประเด็นต่างประเทศ ซึ่งเวทีเมื่อวานนี้ เป็นการพูดคุยกันเรื่องสถานการณ์ในประเทศเมียนมา ซึ่งมีนาย มงคล วิศิษฏ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา มาร่วมพูดคุยอัปเดตสถานการณ์จริง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมียนมา ณ ขณะนี้ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และนางสาว ลดา ภู่มาศ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในฐานะที่มาเลเซียเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ ว่ามาเลเซียมีความคาดหวังจะให้อาเซียน แก้วิกฤตเมียนมาได้อย่างไร ก่อนที่มาเลเซียจะหมดวาระการเป็นประธานอาเซียน ในปีหน้า
นายมงคลกล่าวว่าสถานการณ์ในเมียนมาตอนนี้ ในพื้นที่ส่วนใหญ่เรียกได้ว่ากลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเฉพาะในกรุงย่างกุ้ง ที่ไม่ได้มีความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น ยกเว้นในพื้นที่ห่างไกล ที่ยังคงมีการปะทะกันเกิดขึ้น แต่รัฐบาลเมียนมากำลังมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ โดยยืนยันว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่อิสระและยุติธรรม เพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก และเป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชน แต่จะได้รับการยอมรับแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลเมียนมาว่าจะจัดการเลือกตั้งออกมาได้โปร่งใสแค่ไหน
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือชาวเมียนมาจะมีโอกาสได้เป็นคนกำหนดอนาคตของประเทศตัวเองว่าจะให้เดินไปในทิศทางไหน ซึ่งไทยและอาเซียนพร้อมจะสนับสนุน ถ้าหากเป็นการตัดสินใจของชาวเมียนมา
ส่วนมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ ก็พยายามใช้โอกาสการเป็นประธานอาเซียนของตัวเองผลักดันเรื่องเมียนมาให้เป็นวาระหลัก โดยเฉพาะเรื่องการหยุดยิง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง โดยมาเลเซียใช้วิธีที่เรียกว่า "การทูตแบบเงียบ" เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างเมียนมากับอาเซียนให้กลับมาประสานกันได้อีกครั้ง โดยนางสาว ลดา กล่าวว่าแม้จะเป็นการเชื่อมที่เปราะบาง แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เมียนมาอยู่ห่างจากอาเซียนมากไปเรื่อย ๆ โดยมาเลเซีย คาดหวังว่าไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านเมียนมา ที่มีความใกล้ชิดกับเมียนมา ทั้งเรื่องพรมแดน และความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน จะช่วยประสานกับกลุ่มต่าง ๆ ในเมียนมาให้ทำงานร่วมกับอาเซียนได้ และที่ผ่านมาไทยก็ทำหน้าที่ในด้านนี้ได้อย่างดี
มาเลเซียจะหมดวาระการเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า ซึ่งทางมาเลเซียคาดหวังว่าจะสามารถแก้ไขวิกฤตการเมืองในเมียนมาได้ก่อนจะถึงเวลานั้น หรืออย่างน้อยก็สามารถสร้างกลไลในการเจรจา เพื่อให้ประธานอาเซียนประเทศต่อไปนำเรื่องนี้ไปสานต่อได้ โดยในสายตาของมาเลเซีย วิกฤตเมียนมาไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัญหาของเมียนมา แต่เป็นปัญหาของอาเซียนด้วย เพราะโลกภายนอกคาดหวังว่าอาเซียน ควรมีบทบาทในการแก้ปัญหาชาติสมาชิกของตัวเองโดยตรง และหากอาเซียนยังแก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้ ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานของอาเซียนในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
