‘เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ยาบ้าขายดี’
Editor’s Pick: ‘เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ยาบ้าขายดี’ เมื่อการระบาดของโควิด-19 ทำให้แก๊งค้ายาปรับตัว-ชักจูงคนลักลอบขนยา 'เส้นทางใหม่' มากขึ้น
ค้ายาเพิ่มมากขึ้น
ปีที่แล้ว มีรายงานบันทึกการยึดยาเสพติดในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้จำนวนทั้งหมด 170 ตันเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบจากปี 2019
อินชิงค์ ซิม เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC กล่าวว่า 71% ที่ยึดยาเสพติดส่วนใหญ่มาจากกัมพูชา สปป.ลาว ไทย เมียนมา และเวียดนาม
“ประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง ยกเว้นเวียดนาม มีการจับกุมและยึดยาเสพติดได้จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ แม้มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ก็ตาม” เขากล่าว
รายงานหัวข้อ “ยาเสพติดสังเคราะห์ในภูมิภาคตะวันออกและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้: การพัฒนาและความท้าทายล่าสุดปี 2021” ระบุว่า ไทย มีบันทึกปริมาณยาเสพติดที่ยึดได้ใหญ่ที่สุดในตะวันออกและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ขณะที่การจับกุมยาเสพติดในเมียนมาก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ซิม บอกว่า ผลกระทบของโควิด-19 ต่อการค้ายาเสพติดนั้นสั้นมาก เพราะองค์กรเหล่านี้ปรับตัวให้เข้ากับการควบคุมตามชายแดนแบบใหม่ได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การฟื้นตัวของสินค้าในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และเริ่มเปลี่ยนแปลงวิธีการขนยาอย่างมีนัยยะสำคัญ
ขนส่งรูปแบบใหม่เมื่อโควิดระบาด
รายงานใหม่จากสหประชาชาติ หรือ UN ระบุ องค์กรอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ขยายตัวมากขึ้นบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ โดยแก๊งค้ายาหันมาใช้เส้นทางเรือขนส่งเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางข้อจำกัดการเดินทางด้วยเที่ยวบินจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ตั้งแต่โควิด-19 ระบาด มาเลเซียพบว่า แก๊งค้ายาพยายามขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้น ตามรายงานบันทึกพบยาไอซ์ 2,118 กิโลกรัม ที่ยึดมาได้จากบริเวณชายฝั่งปีนัง ส่วนอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ถูกจับกุมทางทะเลเพียงเล็กน้อย
“แก๊งค้ายาเหล่านี้มาจากสามเหลี่ยมทองคำ ครอบคลุมพื้นที่ชายแดนเมียนมา ไทย และสปป.ลาว พวกเขาขนมาด้วยเส้นทางนี้ ผ่านชายแดนพม่า-ไทย หลังจากนั้นค่อยใช้เรือลำเล็ก ๆ ขนยาไปมาเลเซีย” ซิม กล่าว
ยาบ้าราคาถูก
แม้มีการส่งออกยาเสพติดมากขึ้น แต่ราคาของยาเหล่านี้กลับ 'ถูก' ลงเรื่อย ๆ ราคาของยาไอซ์ตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์ โดยราคาในมาเลเซียลดลงเหลือแค่หนึ่งในสามในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ส่วนกัมพูชาลดเหลือหนึ่งในหกนับตั้งแต่ปี 2014
“ค่าใช้จ่ายในการผลิตยาเสพติดเหล่านี้กำลังถูกลง เพราะปริมาณสารเคมีที่ไหลเข้าสู่การผลิตมีเพิ่มขึ้นและคงที่อย่างต่อเนื่อง” ซิม กล่าว
เศรษฐกิจทั่วโลกต่ำ ตลาดยาเสพติดโต
เจเรมี่ ดักลาส ตัวแทนระดับภูมิภาคของ UNODC กล่าวว่า ถึงแม้การค้ายาเสพติดใช้เวลาหลายปีในการขยายตัวตามภูมิภาคตะวันออกและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ แต่มันมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก เนื่องจากรายได้ต่อหัวประชากรที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้
“เมื่อมองไปที่ภูมิภาคตะวันออกและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ พวกเขายังคงเจริญรุ่งเรืองรวมไปถึงเศรษฐกิจของตลาดนี้ โดยเฉพาะหลังโควิด-19 แก๊งค้ายาเติบโตขึ้นมาก” ดักลาส กล่าว
เขากล่าวต่อว่า ยาเสพติดสังเคราะห์ใช้คนน้อยในการผลิต ไม่เหมือนกับเฮโรอีน หรือ ฝิ่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมหรือต้องใช้คนในพื้นที่, องค์กรอาชญากรรมต่าง ๆ เริ่มสามารถผลิตยาเสพติดเพื่อสร้างรายได้ โดยไม่ต้องใช้คนจำนวนมากเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อถามถึงเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงจากโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการค้ายาเสพติดไหม?, ดักลาส กล่าวว่า ความท้าทายทางการเมืองและเศรษฐกิจในหลายประเทศทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงที่จะก่ออาชญากรรมมากขึ้น ขณะที่ ประเทศเหล่านี้ก็ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากรเช่นกัน
‘ไทย’ กับการจับกุมยาเสพติดในหลายประเทศ
ตำรวจออสเตรเลียรายงาน จับกุมยาเสพติดจำนวน 316 กิโลกรัม มูลค่า 76.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.39 พันล้านบาท ซ่อนในเตาย่างบาร์บีคิวและเครื่องทำน้ำอุ่น ที่ถูกส่งมาจากประเทศไทยไปท่าเรือซิดนีย์ เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ศุลกากรฮ่องกรยึดของกลางต้องสงสัยว่าเป็นสารเฮโรอีน 23.5 กิโลกรัม มูลค่าโดยประมาณ 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 115 ล้านบาท ในวันที่ 27 พฤษภาคม, สารดังกล่าวถูกพบในเครื่องกรองน้ำ 13 เครื่อง และเครื่องชงกาแฟ 9 เครื่อง ที่มาจากประเทศไทย
พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. กล่าวว่า ตั้งแต่เที่ยวบินถูกจำกัดการเดินทางระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, แก๊งค้ายาเลือกใช้เทคนิคใหม่ในการค้ายาเสพติด เช่น ขายสินค้าลงบนโซเชียลมีเดีย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สกัดกั้นการขนส่งยาเสพติดหลายช่องทางในประเทศไทยเมื่อเดือนที่ผ่านมา รวมถึงจับกุมคนไทยที่พยายามลักลอบขนยาบ้า 134,000 โดสเข้าในเกาหลีใต้ได้ด้วย