ระทึก สาวหวิดเอาชีวิตไม่รอด น้ำท่วมใต้สะพานกลับรถ ไร้ป้ายแจ้งเตือน น้ำซัดรถลอยไปติดรั้ว
วันที่ 21 มี.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.เวธนี ทองด้วง อายุ 29 ปี หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.เวธนี ได้ขับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บน 4295 พัทลุง ออกจากบ้านพักในพืนที่ ม.5 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เพื่อไปทำงานที่ ต.ท่าแค อ.เมือง โดยขับรถมาตามถนนเพชรเกษม สายพัทลุง-หาดใหญ่ ท้องที่ บ้านต้นมะละกอ รอยต่อ ต.นาโหนด-ต.ท่าแค อ.เมือง
โดยขณะขับรถตามเส้นทางลอดสะพานเพื่อกลับรถ ไปอีกฝั่ง โดยระหว่างทางลงไม่มีป้ายเตือนใดๆบอกเส้นทางว่าใต้สะพานมีน้ำท่วม ทำให้ น.ส.เวธนี ขับรถลงไป ก่อนเจอน้ำท่วม โดยขณะที่ขับฝ่ากระแสน้ำเพื่อขึ้นทางลอดอีกฝั่ง รถเกิดถูกน้ำซัดลอยไปติดรั้วใต้สะพาน และเครื่องยนต์ดับ น.ส.เวธนี ได้เปิดกระจกแล้วตะเกียกตะกายออกจากรถ เพื่อเอาชีวิตรอด และรีบโทรศัพท์แจ้งญาติให้มาช่วย นำรถขึ้นจากน้ำตรงจุดใต้สะพานกลับรถ
น.ส.เวธนี เล่าว่า นาทีนั้นตนตกใจทำอะไรไม่ถูก ปกติแม้เป็นคนในพื้นที่แต่ไม่เคยขับรถกลับใต้สะพานดังกล่าว วันนี้ด้วยความรีบจึงใช้เส้นทางนี้ดู แต่ไม่คิดว่าเส้นทางดังกล่าวมีน้ำท่วมลึกขนาดนี้ ในตอนแรกขณะที่ขับรถมาถึงกลางเส้นทางระดับน้ำไม่ลึก รถยังแต่ได้แต่แค่ระยะเหลือราว10 เมตร ก่อนขึ้นเนินรถเกิดดับแล้วน้ำก็ไหลมาท่วมภายในห้องคนขับ ก่อนซัดไปติดกับรั้วถนน โชคดีที่มีรั้วกันซึ่งหากไม่มีรั้วเธอเองคงจะถูกน้ำซัดไปพร้อมกับรถอย่างแน่นอน
น.ส.เวธนี ยังกล่าวอีกว่า น้ำท่วมเส้นทางลอดใต้สะพาน ไม่มีการแจ้งเตือนตัวเองขนาดเป็นคนในพื้นที่ยังไม่ทราบ นี่ถ้าหากผู้ใช้รถใช้ถนนที่ไม่ชำนาญเส้นทาง หรือคนต่างจังหวัดหากเกิดต้องใช้จุดกลับรถใต้สะพานดังกล่าว คงจะได้รับอันตรายมากกว่านี้ จึงอยากบอกแขวงการทางพัทลุง หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนให้มากกว่านี้
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่าโครงการสร้างจุดกลับรถใต้สะพานแขวงการทางพัทลุงใช้งบหลายล้านบาทเพื่อก่อสร้าง แต่ตั้งแต่สร้างเสร็จ มีน้ำท่วมบ่อยครั้งเพราะจุดดังกล่าวเป็นเส้นทางน้ำที่ไหลหากลงมาจากเทือกเขาบรรทัดก่อนไหลลงสู่ทะเลสาบ และท่วมขังนานต่อเนื่องหากมีฝนตกลงมาและเสี่ยง