รีเซต

เจ้าหนี้โหด กู้ 1 หมื่น ต้องจ่ายเป็นแสน ไล่ยึดบ้าน ที่นากว่า 30 ไร่ เดือดร้อนหลายราย

เจ้าหนี้โหด กู้ 1 หมื่น ต้องจ่ายเป็นแสน ไล่ยึดบ้าน ที่นากว่า 30 ไร่ เดือดร้อนหลายราย
ข่าวสด
26 เมษายน 2565 ( 18:05 )
131

ข่าววันนี้ 26 เม.ย. 65 นางอรนุช ชัยชาญ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 ลงพื้นที่ร่วมกับ ปลัดอำเภอวังทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกลาง ผู้แทนสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเข้าช่วยเหลือลูกหนี้ จำนวน 2 ราย ในพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง เนื่องจากถูกเจ้าหนี้บังคับให้ใช้เงินต้นทบดอก แพงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งยึดบ้านและที่ดิน โดยไม่ผ่านขบวนการทางกฎหมาย นอกจากนั้นยังข่มขู่ จนไม่สามารถอยู่ได้ บางรายถูกยึดที่นากว่า 30 ไร่

 

นางอรนุช กล่าวว่า มีผู้เดือดร้อนทั้งตำบลหลาย 10 ราย ทาง พมจ.ได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือ เพราะรายแรกเป็นผู้พิการ โดยทางภรรยาไปกู้เงินจากเจ้าหนี้รายนี้ จำนวน 10,000 บาท ต้องส่งดอกเบี้ยวันละ 100 บาท ใช้ทะเบียนบ้านตัวจริงค้ำประกันไว้เป็นหลักฐาน โดยให้สามีซึ่งพิการ ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ เป็นพยานหลักฐาน หลังจากได้เงินแล้วภรรยาได้หนีออกจากบ้านไป

 

 

ทำให้ตอนนี้จากหนี้ 10,000 บาท กลายเป็น 100,000 บาท กระทั่งเมื่อวันที 23 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหนี้ได้มาติดป้ายประกาศขาย/เช่าบ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับบุกรุกไปขนย้ายทรัพย์สิน ภายในบ้านมากองหน้าบ้าน รื้อห้องน้ำทิ้ง ซึ่งเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกหนี้ในหมู่บ้านหลายคน

 

ส่วนที่ราย 2 เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ได้ไปกู้เงินกับเจ้าหนี้รายเดียวกัน จำนวน 100,000 บาท โดยใช้ที่ดิน (สปก.) ของพี่สาวต่างบิดา เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้ สัญญาตกลงกันว่าต้องชำระดอกเบี้ยเป็นรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท ต่อมาส่งไม่ไหว ทำให้เจ้าหนี้ให้ไปทำสัญญาใหม่เป็นรายวัน โดยดอกเบี้ยจนถึงวันครบกำหนด จำนวน 30,000 บาท และนำไปทบเป็นเงินต้นรวมเป็น 130,000 บาท โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ย วันละ 1,300 บาท และต้องชำระก่อนเที่ยงทุกวัน

 

 

หากเลยเที่ยงวัน จะค่าปรับเพิ่ม 130 บาทต่อวัน โดยช่วงแรกก็สามารถส่งได้ กระทั่งคลอดลูกไม่มีรายได้ ทำให้ไม่สามารถส่งดอกได้ ทางเจ้าหนี้ได้ข่มขู่จะยึดบ้านและฟ้องไล่ครอบครัวออกจากบ้าน หากไม่มีเงินต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน เดือนละ 3,000 บาท โดยที่จะต้องจ่ายรายวัน วันละ 100 บาท ก่อนเที่ยงวันเหมือนเดิม ต่อมาลูกหนี้รายนี้ได้ถูกกักตัว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะติดโควิด จึงไม่ได้ส่งดอกแต่อย่างใด

 

ทำให้เจ้าหนี้โทรมาข่มขู่ ประจานและประกาศขายบ้านผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัวของเจ้าหนี้อีกด้วย ต่อมาได้นำคนงานชายเข้าไปข่มขู่มารดาลูกหนี้ถึงบ้าน และกดดันให้ออกจากบ้าน ไม่เช่นนั้นจะรื้อบ้านทิ้ง สุดท้ายได้ทำหนังสือยื่นขอความช่วยเหลือจาก รมว.พม.ดังกล่าว

 

หลังรับทราบเรื่องราว ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ สำนักงานอัยการภาค 6 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้นัดเจรจาเพื่อหาทางออกในการชำระหนี้ ระหว่างผู้เสียหายกับเจ้าหนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเจ้าหนี้ไม่ยอมมาเจรจาแต่อย่างใด

 

 

ด้าน นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 กล่าวว่า จากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งโสภา ในการทำหนังสือเชิญตัวเจ้าหนี้รายนี้มาเจรจาเพื่อหาทางออก ปรากฏว่าเจ้าหนี้ไม่ยอมมาพบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำ หนังสือเชิญอีกครั้ง หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จะทำเรื่องขอหมายศาลในการออกหมายจับ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

 

เนื่องจากเจ้าหนี้รายนี้กระทำผิดเข้าช่วยให้กู้และมีดอกเบี้ยเกินตามกฎหมายกำหนด และที่สำคัญไปยึดบ้านประกาศขายบ้านลูกหนี้ตามพละการไม่ได้ ซึ่งจะต้องผ่านศาลตัดสินให้กรมบังคับคดี บังคับคดีในการขายบ้านเท่านั้น อีกทั้งที่ดินที่เจ้าหนี้ยึดไป เป็นที่ดิน สปก. ซึ่งไม่สามารถซื้อขายได้เช่นกัน จากตรวจสอบว่ามีลูกหนี้ที่เดือดร้อนจากเจ้าหนี้รายนี้แล้วไม่ต่ำกว่า 10 ราย บางรายถูกยึดที่ดินไปกว่า 30 ไร่

 

หลังจากนี้หากมีลูกหนี้ หรือผู้เสียหายต้องการให้ภาครัฐเข้าไปช่วยเหลือสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานอัยการ ภาค 6 หรือ สำนักงาน พมจ.พิษณุโลก ในวันเวลาราชการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง