รีเซต

ผลศึกษาชาวอเมริกัน 6 ล้านคนชี้ ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงจากวัคซีน mRNA

ผลศึกษาชาวอเมริกัน 6 ล้านคนชี้ ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงจากวัคซีน mRNA
ข่าวสด
9 ตุลาคม 2564 ( 18:15 )
35
ผลศึกษาชาวอเมริกัน 6 ล้านคนชี้ ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงจากวัคซีน mRNA

งานวิจัยที่ติดตามศึกษาเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ในระยะยาว เผยผลการศึกษาขั้นแรกจากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกัน 6.2 ล้านคน ซึ่งได้รับวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาไป 1-2 โดส ระหว่างวันที่ 14 ธ.ค. 2020 ถึง 26 มิ.ย. 2021

 

ผลปรากฏว่าในบรรดาผู้รับวัคซีน mRNA จำนวน 11.8 ล้านโดสดังกล่าว ไม่พบว่ามีหลักฐานทางสถิติซึ่งมีนัยสำคัญมากพอจะยืนยันได้ว่า วัคซีน mRNA มีความเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงรุนแรง 23 ประการ ตามที่เคยมีผู้รายงานไว้

 

วารสารของสมาคมการแพทย์อเมริกัน (JAMA) ฉบับเดือนกันยายน ได้ตีพิมพ์เผยแพร่รายงานวิจัยข้างต้น ซึ่งจัดทำโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วมกับบรรดานักวิจัยของธุรกิจประกันสุขภาพเอกชน ภายใต้ทุนวิจัยและการสนับสนุนจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ

มีการติดตามรวบรวมข้อมูลทุกสัปดาห์ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 เป็นต้นมา โดยบันทึกความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพในกลุ่มตัวอย่างทั้งก่อนและหลังได้รับวัคซีนmRNA ซึ่งก็พบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว 1-21 วัน แทบไม่แสดงอาการของผลข้างเคียงรุนแรง ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับความเสี่ยงต่ำไม่แตกต่างจากผู้ที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 22-42 วัน หรือ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น รวมทั้งมีความเสี่ยงเผชิญผลข้างเคียงรุนแรงเท่ากับผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดใด ๆ อีกด้วย

 

ผลข้างเคียงรุนแรง 23 ประการที่รวมอยู่ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ หลายชนิดเป็นโรคและกลุ่มอาการที่สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะรับวัคซีน mRNA ดีหรือไม่ เช่นกล้ามเนื้อหัวใจตาย, กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ, อัมพาตที่ทำให้ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell's palsy), กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré syndrome), ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด, ลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดดำในสมอง, รวมทั้งโรคหลอดเลือดสมองอื่น ๆ และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

ส่วนอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรุนแรงในกลุ่มผู้รับวัคซีน mRNA อายุน้อย ซึ่งกำลังเป็นที่วิตกกันอยู่นั้น การวิจัยครั้งนี้พบผู้ป่วยจากผลข้างเคียงของวัคซีนในวัย 12-39 ปี จำนวน 34 ราย คิดเป็นสัดส่วนโดยเฉลี่ย 6.3 คนต่อการฉีดวัคซีน 1 ล้านโดส โดยผู้ป่วยทั้งหมดเกิดอาการภายใน 1 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีน และได้รับการรักษาจนหายดีในช่วงเวลาที่มีการบันทึกข้อมูลชุดนี้

 

ส่วนอาการภูมิแพ้รุนแรงหลังได้รับวัคซีน mRNA นั้น ผลวิจัยครั้งนี้พบผู้ป่วย 55 รายจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด โดยคนเหล่านี้เกิดอาการแพ้อย่างรวดเร็วภายใน 30 นาทีหลังการฉีดวัคซีน ซึ่งยังอยู่ในช่วงที่บุคลากรทางการแพทย์จะเข้าช่วยเหลือได้ทันการณ์

 

"ผลการศึกษาดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ดีว่าเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของวัคซีนมากแค่ไหน ในขณะที่การรับวัคซีนยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันตนเองและคนที่คุณรัก ซึ่งความเสี่ยงจากผลข้างเคียงนั้นต่ำกว่าและปลอดภัยกว่าการติดเชื้อโควิด-19 หลายเท่า" ทอม ชิมะบุคุโระ รองผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยในการให้ภูมิคุ้มกันโรคกล่าว

 

ทีมผู้วิจัยจะติดตามศึกษาผลข้างเคียงของวัคซีน mRNA ต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปีนับจากนี้ และจะมีการรายงานผลเพิ่มเติมระหว่างนั้นให้ทราบอีกเป็นระยะ

............

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง