เปิดตัวยานอวกาศอาร์ก (Arc) มิติใหม่แห่งการขนส่งเร่งด่วน ส่งสินค้าได้ทั่วโลกภายในหนึ่งชั่วโมง

บริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) บริษัทด้านเทคโนโลยียานอวกาศรุ่นใหม่เปิดตัวยานขนส่งรุ่นใหม่มีชื่อว่า อาร์ก (Arc) อย่างเป็นทางการ ในพิธีเปิดตัวที่โรงงานของบริษัทในเมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ยานอวกาศลำนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความแตกต่างในด้านโลจิสติกส์ โดยมีเป้าหมายในการส่งมอบเสบียงและสินค้าสำคัญไปยังเกือบทุกแห่งในโลกได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

จัสติน ฟิอาเชตติ (Justin Fiaschetti) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) กล่าวว่า "ตัวแบ่งแยกที่สำคัญ คือ สิ่งนี้สร้างความแตกต่างในช่วงเวลาที่จำเป็นหรือไม่"

ภารกิจหลักโลจิสติกส์อวกาศเพื่อความมั่นคง

บริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นปี 2021 โดยฟิอาเชตติ (Fiaschetti) และออสติน บริกส์ (Austin Briggs) ซึ่งเคยเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยบอสตัน (Boston University)

ฟิอาเชตติ (Fiaschetti) เคยฝึกงานด้านระบบขับเคลื่อนที่บริษัทเทคโนโลยีอวกาศอย่าง บริษัท SpaceX และ Relativity Space ก่อนได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อก่อตั้งบริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) จากแนวคิดง่าย ๆ ที่ว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของอวกาศ คือ การเข้าถึงโลกทั้งใบด้วยสินค้าทางกายภาพไม่ใช่เพียงแค่ข้อมูล

บริษัทระบุว่ากำลังสร้างยานอวกาศชื่อว่า อาร์ก (Arc) เพื่อมอบขีดความสามารถในการขนส่งให้แก่กองทัพสหรัฐฯ โดยจะส่งมอบเสบียงได้มากถึง 500 ปอนด์ หรือ 225 กิโลกรัม ไปยังเกือบทุกที่ในโลก

ฟิอาเชตติ (Fiaschetti) อธิบายภารกิจหลักว่า คือ การนำยานอวกาศอาร์ก (Arc) ไปประจำการในวงโคจรล่วงหน้า (Pre-positioning) และให้ยานโคจรอยู่ตรงนั้นได้นานถึง 5 ปี เมื่อได้รับการเรียกใช้งาน ยานจะสามารถลงจอดอย่างเป็นอิสระ (Autonomously go and land) ในสถานที่และเวลาที่ต้องการได้ เพื่อนำสินค้าหรือทรัพยากรอื่น ๆ ที่ต้องการไปยังจุดหมายปลายทางในเวลา ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

สินค้าที่กองทัพสหรัฐฯ ต้องการให้ประจำการในอวกาศสำหรับการจัดส่งฉุกเฉินนั้นเรียกว่า "สินค้าหรือผลกระทบที่เสริมสร้างภารกิจ" (Mission-enabling cargo or effects) ซึ่งอาจเป็นได้หลากหลาย เช่น เวชภัณฑ์ (Medical supplies) รวมไปจนถึงโดรน

การออกแบบและเทคโนโลยีการลงจอด

ยานอวกาศอาร์ก (Arc) ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมที่โดดเด่นเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งมอบสินค้าอย่างรวดเร็ว โดยมีขนาดประมาณโต๊ะขนาดใหญ่ โดยมีความสูงประมาณ 8 ฟุต และกว้าง 4 ฟุต 

ยานลำนี้เป็นยานอวกาศแบบตัวถังยก (lifting body spacecraft) ซึ่งหมายความว่า สามารถทำการบังคับทิศทางได้ในชั้นบรรยากาศ ในระหว่างที่ยานกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศนั้นยาน Arc มีขีดความสามารถในการเคลื่อนที่ (Cross-range capability) ที่กว้างถึง 1,000 กิโลเมตร หรือ ประมาณ 621 ไมล์ ซึ่งช่วยให้สามารถบังคับทิศทางในพื้นที่กว้าง ก่อนการลงสู่พื้นได้อย่างแม่นยำ ยาน Arc จะลงจอดโดยใช้ร่มชูชีพ และไม่จำเป็นต้องใช้รันเวย์ เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน 

ระบบขับเคลื่อนของยานถูกออกแบบให้ใช้สารเคมีที่ไม่เป็นพิษ (Non-toxic materials) ดังนั้น ทหารจึงสามารถเข้าใกล้ยานได้ทันทีหลังจากลงจอดโดยไม่จำเป็นต้องสวมชุดป้องกันใด ๆ

แพลตฟอร์มทดสอบ Hypersonic

นอกเหนือจากการส่งมอบสินค้าแล้ว บริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) ยังเสนอให้ยานอวกาศอาร์ก (Arc) ทำหน้าที่เป็น แพลตฟอร์มทดสอบความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic test platform)

ยานอวกาศอาร์ก (Arc) สามารถเข้าถึงความเร็วได้สูงกว่า Mach 20 และสามารถรักษาสภาพในสภาวะสุดขั้วและทนต่อแรง G ที่สูงได้เป็นระยะเวลานานขึ้น บริษัทกล่าวว่า ยานอวกาศอาร์ก (Arc) ทำให้การทดสอบความเร็วเหนือเสียงมีความรวดเร็ว, สามารถทำซ้ำได้, และประหยัดต้นทุน

การพัฒนาต่อยอดจาก Ray และแผนในอนาคต

ยานอวกาศอาร์ก (Arc) สร้างขึ้นบนความสำเร็จของยานอวกาศสาธิตขนาดเล็กของบริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) ชื่อ "Ray" ซึ่งมีมวลประมาณ 200 ปอนด์ หรือ 90 กิโลกรัม ยานอวกาศสาธิตขนาดเล็ก Ray ถูกปล่อยไปกับภารกิจ Transporter-12 ของบริษัท SpaceX เมื่อเดือนมกราคมปีนี้

ยานอวกาศสาธิตขนาดเล็ก Ray ได้สาธิตความสามารถในการเพิ่มและลดวงโคจร โดยมีการตรวจสอบกับผู้ควบคุมการบินของบริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) เป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ฟิอาเชตติ (Fiaschetti) ยืนยันว่ายาน Ray จะไม่กลับมาลงจอดแบบควบคุมได้บนโลก แต่บริษัทกำลังดำเนินการทดสอบซอฟต์แวร์ระยะยาวในวงโคจร

การทดสอบนี้ทำให้ บริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) มีความมั่นใจเพียงพอที่จะเริ่มผลิตยาน Arc ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น บริษัทซึ่งปัจจุบันมีพนักงาน 60 คน ได้สร้างหน่วยพัฒนาการผลิตขนาดเต็มของโครงสร้างหลัก (full-scale manufacturing development unit of the primary structure) สำหรับยาน Arc ลำแรกเรียบร้อยแล้ว 

นอกจากนี้ ทีมงานยังได้ร่วมมือกับ NASA ในการพัฒนาระบบป้องกันความร้อนสำหรับสภาวะการกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศที่รุนแรง บริษัท อินเวอร์ชัน (Inversion) ตั้งเป้าที่จะปล่อยยาน Arc ลำแรกให้ได้ภายใน สิ้นปี 2026 โดยฟิอาเชตติ (Fiaschetti) ระบุว่าบริษัทกำลังอยู่บนเส้นทางที่ดีในการทำตามกำหนดเวลานั้น