รีเซต

กู้ภัยอินเดียช่วยผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารถล่มในรัฐมหาราษฏระ

กู้ภัยอินเดียช่วยผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารถล่มในรัฐมหาราษฏระ
TNN ช่อง16
25 สิงหาคม 2563 ( 19:23 )
103
กู้ภัยอินเดียช่วยผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารถล่มในรัฐมหาราษฏระ

วันนี้ ( 25 ส.ค. 63 )เจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งระดับรัฐและรัฐบาลกลางให้สุนัขที่ได้รับการฝึกพิเศษช่วยขุดซากอาคารที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนแออัดของเมืองมาฮัด ห่างจากนครมุมไบไปทางใต้ 150 กิโลเมตร เพราะเชื่อว่ายังมีผู้รอดชีวิตอยู่อีกราว 19 คน หลังจากอาคาร 5 ชั้นพังถล่มเมื่อเวลา 18.30 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น 


เจ้าหน้าที่เผยว่า แม้สามชั้นบนของอาคารพังไม่เหลือซาก แต่หวังว่าช่องอากาศในลานจอดรถและชั้นล่างจะช่วยให้ผู้ติดอยู่ข้างใต้มีชีวิตรอด เพราะผู้พักอาศัยหลายคนเล่าว่า ช่วงที่วิ่งหนีออกจากอาคาร เห็นเสาในลานจอดรถยังสั่นอยู่ จึงอาจรับน้ำหนักซากอาคารได้ คาดว่าปฏิบัติการกู้ภัยจะดำเนินต่อไปอีกหนึ่งวัน ผู้พักอาศัย 25 คนวิ่งออกมาได้ก่อนอาคารพังถล่ม ผู้พักอาศัยอีกราว 60 คนได้รับการช่วยเหลือจากซากอาคาร ผู้บาดเจ็บคนหนึ่งที่ซากอาคารตกใส่ไปเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจที่โรงพยาบาล


อาคารหลังนี้มีห้องพักทั้งหมด 41 ห้อง เป็นห้องว่าง 18 ห้องและมีผู้อาศัยราว 200 คน ยังไม่ทราบสาเหตุที่อาคารพัง ทางการกำลังสอบสอนว่าเกิดจากความประมาทเลินเล่อหรือไม่ รายงานเบื้องต้นของตำรวจเผยว่าได้ยื่นฟ้องคน 5 คนรวมทั้งเจ้าของบริษัทก่อสร้างอาคาร ข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา แต่ยังไม่จับกุมผู้ใด 


นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของ อินเดียทวีตแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ภาวนาให้ผู้บาดเจ็บหายโดยเร็ว และว่าเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุกำลังให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่เป็นไปได้เหตุอาคารพังถล่มเป็นเรื่องปกติในอินเดีย เนื่องจากการก่อสร้างและวัสดุไม่ได้มาตรฐาน และไม่เป็นไปตามข้อบังคับกฎหมาย


ขณะที่ฝนที่ตกหนักในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนในอินเดีย ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้อาคารทั้งขนาดใหญ่และเล็กอันตรายเกินกว่าที่จะอยู่อาศัย ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักงานสถิติอาชญากรรมแห่งชาติอินเดียพบว่า มีชาวอินเดียกว่า 1,200 คนเสียชีวิตจากอาคาร 1,161 แห่งที่พังถล่มในปี 2560


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ข่าวที่เกี่ยวข้อง