รีเซต

ข้าวของแพง! พาณิชย์ฟุ้งเอาอยู่ ตรึงราคาสินค้าต่อเนื่อง จ่อเรียกผู้ประกอบการถกเพิ่ม

ข้าวของแพง! พาณิชย์ฟุ้งเอาอยู่ ตรึงราคาสินค้าต่อเนื่อง จ่อเรียกผู้ประกอบการถกเพิ่ม
ข่าวสด
31 มกราคม 2565 ( 17:04 )
51
ข้าวของแพง! พาณิชย์ฟุ้งเอาอยู่ ตรึงราคาสินค้าต่อเนื่อง จ่อเรียกผู้ประกอบการถกเพิ่ม

รมว.พาณิชย์ เผย กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นทุกหมวดอย่างใกล้ชิด ทำให้สินค้าอย่างน้อยสินค้า 7 หมวด สินค้าสำคัญก็สามารถตรึงราคาไว้ได้ เตรียมเรียกผู้ประกอบการถกเพิ่มเติม

 

วันที่ 31 ม.ค.2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นทุกหมวดอย่างใกล้ชิด ซึ่งปกติทุกปีราคาสินค้าในหมวดอาหารจะมีราคาสูงขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา สำหรับปีนี้กระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ราคาทุกหมวด ทำให้สินค้าอย่างน้อยสินค้า 7 หมวด สินค้าสำคัญก็สามารถตรึงราคาไว้ได้

 

โดยเกิดจากการที่ กรมการค้าภายใน(คน.) ได้เชิญเกษตรกร ผู้ประกอบการ รวมทั้งร้านค้าส่งค้าปลีกทั่วประเทศมาหารือร่วมกันและทุกฝ่ายก็เห็นตรงกันว่าต้องตรึงราคา ประกอบด้วย 1.หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า 2.หมวดน้ำอัดลม 3.หมวดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4.หมวดซอสปรุงรส 5.หมวดนมและผลิตภัณฑ์นม 6.หมวดอาหารกระป๋อง และ 7.หมวดอาหารสด

 

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากการตรึงราคาสินค้าทั้ง 7 หมวดได้แล้ว ในส่วนราคาไข่ไก่จากการติดตามราคาในห้างค้าส่งค้าปลีกสำคัญๆ ที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดราคาชี้นำของประเทศทั้งแมคโคร โลตัส บิ๊กซี เป็นต้น และราคาในตลาดต่าง ๆในพื้นที่กทม.และในต่างจังหวัด ก็พบว่าราคาไข่ไก่ลดลงกว่าราคากำกับของกระทรวงพาณิชย์ในช่วงตรุษจีน โดยราคากำกับนั้นกำหนดไว้ว่าไข่ไก่หน้าฟาร์ม ต้องไม่เกินฟองละ 2.90 บาท และราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ซึ่งเป็นเบอร์ที่นิยมบริโภคจำหน่ายปลีกไม่เกินฟองละ 3.50 บาท แต่ปรากฏว่าราคาเฉลี่ยของไข่ไก่ทั่วประเทศลดลง 7% จากราคาที่กำกับ เหลือเฉลี่ยฟองละ 3.39 บาท

 

สำหรับเนื้อหมู หรือเนื้อสุกร เรากำกับราคาสุกรหน้าฟาร์มไว้ที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท ราคาหมูเนื้อแดงมาตรฐานกลางมีราคาต่ำกว่าราคากำกับของกระทรวงพาณิชย์เฉลี่ย 11% จากราคากำกับที่ 205-210 บาทต่อกิโลกรัม เหลือเฉลี่ยทั่วทั้งประเทศที่ 187.19 บาทต่อกิโลกรัม และกรมการค้าภายในวิเคราะห์ว่าหลังตรุษจีนราคาเนื้อสุกรอาจจะมีแนวโน้มลดต่ำลงได้อีก และสินค้าอาหารด้านประมงนั้นพบว่าส่วนใหญ่ราคาต่ำลง เช่น ปลานิล ราคาลดลง 11% อยู่ที่เฉลี่ยกก.ละ 55-65 บาท ปลาทับทิมราคาลดลง 3% มีปลาดุกที่ราคาเพิ่มขึ้น 3%

 

 

ส่วนราคาไก่ ปกติจะสูงขึ้นมากในช่วงตรุษจีนเพราะประชาชนคนไทยเชื้อสายจีนนำไปใช้ในการเส้นไหว้บรรพบุรุษ ปีนี้กำกับราคาไก่หน้าฟาร์มที่กก.ละไม่เกิน 40 บาท โดยจำหน่ายใน 3 ห้างใหญ่ แม็คโคร โลตัสและบิ๊กซี 710 สาขาทั่วประเทศในราคากำกับดังนี้ ไก่ทั้งตัวก.ก.ละไม่เกิน 65 บาท น่องติดสะโพก ไม่เกินก.ก.ละ 65 บาท เนื้อหน้าอกไม่เกินก.ก.ละ 75 บาท ซึ่งเนื้อไก่ใน 3 ห้างนี้ซึ่งเป็นราคาชี้นำ อยู่ในราคากำกับเกือบทั้งหมด สำหรับราคาไก่ในตลาดทั่วไปในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดยังมีราคาสูงกว่าราคากำกับในช่วงตรุษจีน แต่ 3 ห้างนี้เป็นไปตามข้อตกลง

 

ขณะที่ราคาผัก จากการติดตามของพาณิชย์จังหวัดทั่วทั้งประเทศพบว่าราคาผักลดลงทุกตัว ผักคะน้าลดลงจากช่วงที่สูงสุด ช่วงก่อนปีใหม่จนถึงตรุษจีน ลดลงเฉลี่ย 44% ถั่วฝักยาว ลดลง 13% กะหล่ำปี ลดลง 32% กวางตุ้ง ลดลง 26% ผักกาดขาว ลดลง 63% ผักบุ้งจีน ลดลง 36% ต้นหอม ลดลง 52% ผักชี ลดลง 79% และมะนาวเบอร์ 1-2 ลดลง 17% เฉลี่ยถูกกว่าช่วงที่ขึ้นไปสูงถึง 40%

 

 

"กระทรวงพาณิชย์จะเชิญผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมาหารือเพิ่มเติมในสินค้าบางหมวดที่คิดว่า ยังจำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคของพี่น้องประชาชน เพื่อตรึงราคาสินค้าให้นานที่สุดและให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคสูงสุดต่อไป อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือและโดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงทั้งหมดที่ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์เป็นอย่างดี เราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเกษตรกร สมาคมผู้เลี้ยงสุกร รวมทั้งโรงชำแหละและห้างค้าปลีกค้าส่งต่างๆเราสามารถกำกับราคาหมูต้นทาง คือหมูที่หน้าฟาร์มได้ไม่เกิน 100-110 บาทต่อก.ก. จึงมีส่วนทำให้ปลายทางราคาลดลงจนเหลือ 175 บาทที่ห้างแม็คโคร เป็นต้น "

 

 

สำหรับความคืบหน้า โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 17 ที่ของบกลางจากคณะรัฐมนตรีนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า แม้งบประมาณยังไม่ลงมาแต่ทางกระทรวงพาณิชย์ใช้วิธีบริหารจัดการการลดราคาช่วยประชาชนโดยเน้นความร่วมมือต่อเนื่องจากโครงการเดิมทั้งหมูลดราคาและโมบายพาณิชย์ โดยพยายามจะไม่ให้ขาดตอนเพื่อพยุงราคาชี้นำตลาดหรือราคากำกับนี้ไปให้นานที่สุดจนกว่าจะคลี่คลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง