หุ้นโรงพยาบาลรับผลบวกไฮซีซั่น BDMS-BH-PR9 กำไรทำนิวไฮในไตรมาส 3/67
#PR9 #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
ผลกระทบเชิงบวกจากช่วงไฮซีซันในไตรมาส3
ในไตรมาส 3/67 มี รพ.กำไรดีกว่าคาด 5 บริษัท, ต่ำกว่าคาด 2 บริษัท และตามคาด 1 บริษัท รพ.ที่ไม่รับ SSO สามแห่งรายงานผลกำไรปกติที่สูงเป็นประวัติการณ์
เรามองเห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากทั้งผู้ป่วยเงินสดและ SSO โดยโรงพยาบาลส่วนใหญ่มีการประหยัดต่อขนาดที่เพิ่มขึ้น และยังมีการควบคุม SG&A ที่ดี
PR9 มีผลประกอบการน่าประทับใจที่สุด โดยมีอุปสงค์และการประหยัดต่อขนาดที่เพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มเติบโต QoQ ในไตรมาส 4/67 ตรงข้ามกับโรงพยาบาลอื่นๆ
Investment Topics
รีวิวผลประกอบการไตรมาส 3/2567 มี รพ.ที่ประกาศกำไรดีกว่าคาด 5 บริษัท ต่ำกว่าคาด 2 บริษัท และเป็นไปตามคาด 1 บริษัท โดยมี 3 บริษัท (BDMS, BH และ PR9) ที่ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรที่ดีกว่าคาดส่วนใหญ่เกิดจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด ขณะที่ BH และ KLINIQ มีกำไรต่ำกว่าคาด เนื่องจากรายได้ที่ต่ำกว่าคาด มีเพียง BDMS ที่รายงานผลประกอบการเป็นไปตามคาด ส่วนกำไรของ RJH ที่ดีกว่าคาดอย่างมากที่ 49% ส่วนหนึ่งเกิดจากการได้รับยกเว้นภาษี หากดูเฉพาะผลการดำเนินงานหลักจะสูงกว่าคาด 19% ทั้งนี้ โรงพยาบาลทั้งหมดรายงานกำไรเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY ยกเว้น KLINIQ, THG และ RPH
แนวโน้มการดำเนินงาน โรงพยาบาลทั้งหมดรายงานรายได้เพิ่มขึ้น QoQ สะท้อนถึงผลกระทบเชิงบวกของช่วงไฮซีซัน มีเพียง BH และ THG ที่รายงานรายได้ลดลง 5-9% YoY เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลอื่น ๆ ที่มีการเติบโต YoY การเติบโตของรายได้สนับสนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยเงินสดและผู้ป่วยประกันสังคม (SSO) โรงพยาบาลที่รับผู้ป่วย SSO มีการบันทึกรายได้พิเศษในไตรมาส 3/2567 ส่งผลให้รายได้ SSO เติบโต YoY ในอัตราที่แข็งแกร่งกว่ารายได้จากผู้ป่วยเงินสด โรงพยาบาลส่วนใหญ่มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากอัตราการครองเตียงที่เพิ่มขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร (SG&A) ที่มีประสิทธิภาพ สำหรับโรงพยาบาลบางแห่งที่อัตรากำไรลดลง QoQ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความซับซ้อนของโรคของผู้ป่วยที่ลดลง
ผลประกอบการ PR9มีผลประกอบการที่โดดเด่นที่สุด โดยทำสถิติสูงสุดในทุกระดับ ซึ่งสนับสนุนจากอุปสงค์และการประหยัดต่อขนาดที่เพิ่มขึ้น ด้านผลประกอบการที่น่าผิดหวังที่สุดคือ BH และ KLINIQ โดย BH เผชิญกับอุปสงค์ที่ลดลงจากตลาดตะวันออกกลาง ขณะที่ KLINIQ เผชิญกับอุปสงค์ที่ลดลงจากแบรนด์ที่จับตลาดรายได้ที่ลดลงจากกลุ่มเดิม ทั้งนี้ โรงพยาบาล SSO ในไตรมาส 3/2567ได้รับประโยชน์จากรายได้พิเศษจาก SSO หากไม่รวมรายการพิเศษเหล่านี้ กำไรปกติน่าจะลดลง 1% YoY สำหรับ BCH เพิ่มขึ้นขึ้น 4% YoY สำหรับ CHG และเพิ่มขึ้น 37% YoY ส่าหรับ RJH เทียบกับการเติบโตของกำไรปกติที่รายงานตลาดฯ ที่ 3%, 28% และ 77% ตามลำดับของ BCH, CHG และ RJH
แนวโน้ม เราคาดว่ารายได้ของโรงพยาบาลทั้งหมดในไตรมาส 4/2567 จะลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วงต่อจากไฮซีซันในไตรมาส 3 ยกเว้น PR9 ซึ่งน่าจะได้รับประโยชน์จากช่วงฤดูกาลตรวจสุขภาพ อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะเผชิญแรงกดดันจากประหยัดต่อขนาดที่ลดลง และเป็นช่วงไฮซีซันของ SG&A ส่วนโรงพยาบาล SSO มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการลดลงของกำไรอย่างมาก QoQเนื่องจากไม่มีรายได้พิเศษจาก SSO และต้องบันทึกรายได้โรคต้นทุนสูงลดลง และน่าจะลดลงอย่างมาก YoY เนื่องจากฐานที่สูงในไตรมาส 4/2566 ซึ่งมีรายได้พิเศษจาก SSO
Valuation and Recommendation
บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาล โดยมี PR9 เป็นหุ้นเด่นของเรา เรามองว่าผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ยังคงสะท้อนถึงแนวโน้มอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับโรงพยาบาลเอกชน แม้ว่าจะมีปัญหาอุปสงค์ในโรงพยาบาลบางแห่งก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการโดยรวมอาจชะลอตัวลงในไดรมาส 4/2567 หลังจากช่วงไฮซีซันในไตรมาส 3/2567 ความเสี่ยงขาลงที่อาจเกิดขึ้นคือภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ และการแข่งขันที่รุนแรงกว่าที่คาด