รีเซต

ศบค.ย้ำ เปิดเฟส 5 เงื่อนไขไม่มาก แค่ต้องปรับตัว ใช้ชีวิตวิถีใหม่ทั้งกลางวัน-กลางคืน

ศบค.ย้ำ เปิดเฟส 5 เงื่อนไขไม่มาก แค่ต้องปรับตัว ใช้ชีวิตวิถีใหม่ทั้งกลางวัน-กลางคืน
มติชน
26 มิถุนายน 2563 ( 12:52 )
99
ศบค.ย้ำ เปิดเฟส 5 เงื่อนไขไม่มาก แค่ต้องปรับตัว ใช้ชีวิตวิถีใหม่ทั้งกลางวัน-กลางคืน
ศบค.ย้ำ เปิดเฟส 5 เงื่อนไขไม่มาก แค่ต้องปรับตัว ใช้ชีวิตวิถีใหม่ทั้งกลางวัน-กลางคืน

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 211 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 94 และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อทั่วโลกสะสมรวม 9,710,205 ราย รักษาหายแล้ว 5,279,579 ราย เสียชีวิต 491,783 ราย

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ประเทศที่พบผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงที่สุด2,504,588 ราย เสียชีวิต 126,780 ราย 2.บราซิล 1,233,147 ราย เสียชีวิต 55,054 ราย 3.รัสเซีย 613,994 ราย เสียชีวิต 8,605 ราย 4.อินเดีย 491,170 รายเสียชีวิต 15,308 และ 5.สหราชอาณาจักร 307,980 ราย เสียชีวิต 43,230 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 183,082 รายภายใน 1 วัน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 6,811 ราย

 

“ไทยตกอันดับจาก 93 เป็น 94 ตกอันดับนี้ดี ลงไปเรื่อยๆ ยิ่งดี เป็นอันดับต้นๆ ไม่ดีเท่าไหร่ และในสถานการณ์ของไทยนิ่ง เป็นศูนย์มาเรื่อยๆ แต่ต่างประเทศตายกันเป็นใบไม้ร่วง เพื่อนๆ ที่อยู่ต่างประเทศเขาก็อิจฉาประเทศไทย เพราะคนไทยอยู่กันอย่างนี้ สบาย แต่ต่างประเทศยังคุมเชื้อโรคไม่ได้ดีเหมือนไทยเรา ประเทศไทยเราน่าอยู่ น่าอาศัยที่สุดในตอนนี้” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการลงทะเบียนแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ว่า จะต้องย้ำว่า กิจการ/กิจกรรมที่จะเปิดในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 จะต้องมีการลงทะเบียนก่อนเปิดให้บริการ ถึงจะได้เปิด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ขณะนี้ยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นอยู่ที่ 424,077 คน และมีการลงทะเบียนร้านค้า 230,768 ร้าน สัดส่วนการเช็กอิน/เช็กเอาท์ ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ ร้อยละ 55.6 และผ่านแอพพ์ ร้อยละ 86.7

ผู้สื่อข่าวถามว่า การผ่อนปรนระยะที่ 5 มีเงื่อนไขมากเกินไปหรือไม่ เนื่องจากการติดเชื้อในประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยแล้ว โดยเฉพาะการเปิดบริการผับ บาร์ อาบอบนวด เช่น กำหนดให้ติดกกล้องวงจรปิด นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การติดเชื้อในประเทศมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่หากดูจากต่างประเทศมีรายงานไร้การติดเชื้อ 50 กว่าวัน แต่ก็มีการกลับมาติดเชื้อในปักกิ่ง ดังนั้นจะกี่วันก็ไม่ได้บ่งบอกว่าไม่มีการติดเชื้อ โดยย้ำว่าจะมีการระบาดระลอกที่ 2 แต่ไม่รู้จะมาเมื่อใด

“รวมถึงสถานการณ์ของโลกที่จะแตะ 10 ล้านคน ในสัปดาห์หน้า และเสียชีวิตในหลักหลายพันราย ชี้ให้เห็นว่าโลกนี้ยังวิกฤตอยู่ แม้ในบ้านเราจะสะอาดแล้ว ดังนั้นเราจะต้องปกป้องตัวเราเองด้วย 5 มาตรการหลัก บวกกับแอพพ์ฯ ไทยชนะ และกิจการ/กิจกรรมที่จะเปิดในระยะที่ 5 มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น เช่น สถานบันเทิง ที่เป็นต้นเหตุในการติดเชื้อแรกๆ ของไทย แต่ตอนนั้นไม่มีมาตรการใดๆ แต่ในวันนี้เราได้เรียนรู้กันแล้ว เราจึงขอฝากให้เติมชุดกิจกรรมใหม่ เป็นชีวิตวิถีใหม่ New normal ทั้งการใช้ชีวิตกลางวันและกลางคืน แรกๆ อาจไม่คุ้นเคย แต่เราจะปรับตัว และย้ำว่าการสแกนเข้าไทยชนะ ไม่มีการนำข้อมูลไปทำอย่างอื่นใด และประชาชนมีความเป็นส่วนตัวเช่นเดิม” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง