รีเซต

โบรกฯ แห่รุมหั่นกำไร-ราคาเป้าหมาย KCE ลดลง หลังแผนขยายกำลังผลิตล่าช้า

โบรกฯ แห่รุมหั่นกำไร-ราคาเป้าหมาย KCE ลดลง หลังแผนขยายกำลังผลิตล่าช้า
ทันหุ้น
10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 14:44 )
390
โบรกฯ แห่รุมหั่นกำไร-ราคาเป้าหมาย KCE ลดลง หลังแผนขยายกำลังผลิตล่าช้า

#KCE #ทันหุ้น-โบรกเกอร์หลายแห่งพร้อมใจปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ลง เนื่องจากแผนการขยายกำลังการผลิตต้องล่าช้า เพราะประสบปัญหาในการผลิตของเครือ่งจักร หลังจากมีการประชุมนักวิเคราะห์ 

 

บล.เอเซีย เวลท์ ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิของ KCE ในปี 2565 ลง 12% จากเดิม 3,121 ล้าบาท เป็น 2,797 ล้านบาท รวมถึงปรับรายได้รวมในปี 2565 เป็น 17,243 ล้านบาท แม้ว่ามองภาพรวมของตลาด PCB จะเติบโต 4-5% แต่บริษัทได้รับผลกระทบจากการทำงานของเครื่องจักรใหม่ที่มีผลทำให้เกิดการล่าช้าในการขยายกำลังการผลิตใหม่ โดยบริษัทจะได้ Compensation บางส่วนจากผู้ผลิตเครื่องจักร

 

"เรายังคงมอง KCE มีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ แม้ราคาหุ้นจะมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากปัจจัยกดดันราคาหุ้นในเรื่องของการ Delay ในการขยายกำลังการผลิตที่เราคาดว่ามีแนวโน้มที่จะคลี่คลายได้ในครึ่งหลังของปีนี้ และออเดอร์ที่ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของตลาด โดยราคาหุ้นที่ปรับลง มองเป็นจังหวะการเข้าลงทุนที่ดี แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 90 บาท"ฝ่ายวิจัยเอเซีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ 

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่าจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ โทนลบระยะสั้น จากปัญหาการเดินเครื่องจักรใหม่ ทำให้กำลังการผลิตส่วนเพิ่มล่าช้ากว่าแผนออกไป 1-2 ไตรมาส จึงคาดว่ากำไรไตรมาส 1/65 อาจอ่อนตัวลง โดยผู้บริหารตั้งเป้าจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป ภายใต้คำสั่งซื้อที่ยังแข็งแกร่ง ทั้งนี้การขยายโรงงานใหม่ที่โรจนะได้ถูกเลื่อนออกไปอย่างน้อย 1 ไตรมาส คาดจะเริ่มดำเนินการได้อย่างเร็วในไตรมาส 2/66 แม้ว่าผู้บริหารยังตั้งเป้ารายได้ปี 2565 เติบโต 20% แต่ฝ่ายวิจัยมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำได้ต่ำกว่า จากปัญหาการเดินเครื่องจักรใหม่ ขณะที่กำลังการผลิตเดิมยังถูกใช้เต็ม 

 

ฝ่ายวิจัย จึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2566 ลง 15.6% และ 11.7% เป็นการเติบโต 16.3% และ 15.9% ตามลำดับ รวมทั้งได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 72 บาทต่อหุ้นจากเดิม 100 บาทต่อหุ้น ขณะที่มองบวกในระยะกลางยาว เนื่องจากสัดส่วนรายได้ราว 70% เป็นการขายไปยังอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งจะได้รับผลบวกจากการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต จึงคงคำแนะนำซื้อลงทุน 

 

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ได้ปรับประมาณการกำไรของ KCE ในปี 2565-2566 ลงจากเดิม 10% ซึ่งหลังจากปรับสมมติฐานใหม่แล้ว คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะโต 29% ในปี 2565 และโต 19% ในปี 2566 สาเหตุที่ปรับลด เนื่องจากความล่าช้าในการเพิ่มกำลังการผลิต ขณะเดียวกันได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 80 บาทต่อหุ้นจากเดิม 120 บาทต่อหุ้น โดยยังคงแนะนำซื้อ เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการในปีนี้จะดีขึ้นและราคาหุ้นยังมี upside 

 

บล.เคทีบีเอสที ได้ปรับราคาเป้าหมายหุ้น KCE ลงมาอยู่ที่ 80 บาทต่อหุ้นจากเดิมที่ 105 บาทต่อหุ้น เพราะมีมุมมองเป็นลบจากการประชุมนักวิเคราะห์ ปัญหาการปรับจูนเครื่องจักรในสายการผลิตใหม่ที่ยังไม่ลงตัว ส่งผลกระทบต่อ gross margin ในไตรมาส 4/64 ลดลง โดยปัญหานี้คาดว่าจะเริ่มดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 1/65 และคาดแผนการเปิดโรงงานใหม่ที่อยุธยาต้องเลื่อนออกไปจากปลายปี 2565 เป็นช่วงไตรมาส 2/66 

 

จึงได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ลง 16% และ 22% อยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท เติบโต 23% และ 3.3 พันล้านบาท เติบโต 14% แต่ยังคงแนะนำซื้อ 

 

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ KCE ในปีนี้ลง 11% เหลือเพียง 3,052 ล้านบาท เติบโต 26% และได้ปรับลดราคาพื้นฐานลงมาอยู่ที่ 72 บาทต่อหุ้น แนะนำทยอยซื้อ จากราคาหุ้นที่ปรับลงมา

 

และบล.โนมูระ พัฒนสิน ได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงเช่นกัน จากเดิมอยู่ที่ 97 บาทต่อหุ้นปรับลดลงมาอยู่ที่ 74 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร โดยมีปัจจัยที่เป็นห่วงมากคือการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของเครื่องจักรในโรงงานลาดกระบังและอยุธยา ที่จะยังส่งผลลบต่อแนวโน้มผลดำเนินงานในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2565 จึงได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ลงจากเดิม 16% และ 7% 

 

ราคาหุ้น KCE บ่ายนี้เคลือ่นไหวอยู่ที่ 62.50 บาท ลบ 2.25 บาท หรือ 3.47% ระหว่างวันราคาลงมาต่ำสุดที่ 61.50 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 2,626.75 ล้านบาท 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง