โจรใจบาปงัดตู้บริจาคมัสยิด จ.สตูล ขโมยทั้งเงิน-รองเท้า
ข่าววันนี้ 14 เมษายน ที่มัสยิดญามิอริยาฎิศศอลีฮีน หมู่ที่ 4 บ้านท่าคลอง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นายดอล๊ะ หมาดเต๊ะ ผู้นำศาสนาอิหม่าม ผู้ดูแลมัสยิดและผู้ประสานงานนำสื่อมวลชนดูร่องรอยตู้รับบริจาคซึ่งตั้งอยู่ภายในมัสยิดถูกงัดแงะ แม้ทางมัสยิดจะใช้โซ่ขนาดใหญ่คล้องตู้บริจาคติดกับเสาและล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา ก็ยังไม่วายถูกคนร้ายรับตู้บริจาคในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาถูกงัดแงะไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง โดยส่วนใหญ่พบว่าคนร้ายจะก่อเหตุในเวลากลางคืน
ทางผู้ดูแลมัสยิดยอมรับว่าสาเหตุที่ไม่แจ้งความตำรวจท้องที่เนื่องจากว่ายอดเงินในตู้บริจาคที่หายไปเป็นเงินเพียงเล็กน้อย แต่มาในระยะหลังกลับพบว่าคนร้ายได้ใจก่อเหตุถี่ยิ่งขึ้น ภายในเดือนเดียวเข้าก่อเหตุ 2-3 ครั้ง ทางมัสยิดต้องเปลี่ยนกุญแจหลายต่อหลายชุดก็ยังไม่สามารถจะหยุดการก่อเหตุของคนที่จบเงินภายในมัสยิดได้
นอกจากการขโมยเงินภายในตู้บริจาค ซึ่งมีจำนวน 2 ตู้ภายในมัสยิด คนร้ายจะงัดเฉพาะตู้รับบริจาคซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งผู้ชายมากกว่าของผู้หญิงไม่พอแล้วนั้น ยังพบว่า คนร้ายได้ขโมยเงินที่เจ้าของเสียบไว้ด้านหลังโทรศัพท์ ของคนที่แวะมาเข้าห้องน้ำแล้วชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้หายไปด้วยจำนวน 1,000 บาท
อีกทั้งยังพบหัวขโมยเข้ามาก่อเหตุในช่วงที่พี่น้องมุสลิมเขาทำพิธีภายในมัสยิดและถอดรองเท้าไว้ด้านหน้า พบว่าในเวลาเพียง 10 นาทีที่ทำกิจกรรมทางศาสนาออกมาก็ไม่พบรองเท้า ที่ถอดไว้ โดยรองเท้าที่หายคนร้ายจะเลือกคู่ที่มีราคาแพงและสวยงาม ยิ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับทางมัสยิดในการที่จะเร่งหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าว
นายบราเหม หมีนแดง ผู้ดูแลมัสยิดกล่าวด้วยความคับแค้นใจว่า ที่รู้สึกโกรธมากตอนหัวค่ำพบว่าเงินบริจาคภายในตู้มีจำนวน 60 บาทตั้งใจว่าค่อยมาจัดเก็บเงินออกจากตู้บริจาค พาลูกสาวมาดูอีกครั้งก็พบว่าเงินดังกล่าวไม่มีแล้วทำให้ตนรู้สึกโกรธกับสิ่งที่คนร้ายกระทำในครั้งนี้มาก และไม่เฉพาะเงินในตู้บริจาคที่ถูกขโมยมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเงินที่อยู่กับโทรศัพท์ของคนมาแวะใช้บริการห้องน้ำก็หายไปด้วยจำนวน 1,000 บาทอีกทั้งรองเท้าของผู้ที่มาทำกิจกรรมทางศาสนาก็ยังหายไปด้วยทำให้ต้องมีการพูดคุยเรื่องนี้กับคณะกรรมการประจำมัสยิดเพื่อหาแนวทางออก
โดยเบื้องต้นทางมัสยิดได้มีมติให้ทุกครั้งที่เสร็จสิ้นการทำพิธีกรรมทางศาสนาให้จัดเก็บเงินออกจากตู้บริจาคเลยทันที นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยถึงการจัดหาเงินทุนซื้อกล้องวงจรปิดเพื่อใช้ในการจับคนร้ายเอามาลงโทษ เบื้องต้นพบว่าคนก่อเหตุเป็นคนต่างถิ่นที่เดินทางเข้ามายังมัสยิดแห่งนี้ซึ่งเป็นทางผ่าน
นายรสลี มะสมาน ผู้ประสานงานมัสยิดยอมรับว่า หลังพูดคุยกับคณะกรรมการประจำมัสยิดในการหาแนวทางแก้ปัญหาพบว่าการใช้กล้องวงจรปิดจะช่วยในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ปิดรอบตัวมัสยิดเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้มีการเกิดเหตุเกิดขึ้นอีกซึ่งทั้งนี้ในส่วนตนก็จะรับหน้าที่เปิดรับบริจาค ในการหาทุนซื้อกล้องวงจรปิดซึ่งประมาณการใช้งบ 30,000 บาทรายการติดตั้งครั้งนี้
สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาอยากจะร่วมบริจาคจัดซื้อกล้องวงจรปิดให้กับทางมัสยิดสามารถบริจาคได้ที่.. เลขบัญชีธนาคารออมสิน 020 3623 78042 ชื่อบัญชี ‘มัสยิดญามิอริยาฎิศศอลีฮีน’