โลกต้องเตรียมรับมือ แผ่นดินไหว 8.8 คัมชัตกา จุดชนวนสึนามิรอบแปซิฟิก

31 กรกฎาคม 2568 ( 09:30 )
18
เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.8 แมกนิจูด นอกชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตกา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดของโลกนับตั้งแต่ปี 2011 และติด 1 ใน 10 ครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้แรงสั่นสะเทือนระดับมหึมาซึ่งเกิดลึกลงไปใต้พื้นดินประมาณ 20 กิโลเมตร ทำให้เกิดความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนและมีรายงานผู้บาดเจ็บในเมืองเปตรอปาฟลอฟสก์-คัมชัทสกี เมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่สุดเพียง 119 กิโลเมตร
หลังเกิดแผ่นดินไหว รัสเซีย ญี่ปุ่น และฮาวายได้ออกคำเตือนสึนามิและสั่งอพยพประชาชน ขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่างฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ และเปรู ก็ได้รับคำแนะนำให้เฝ้าระวังคลื่นยักษ์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในบริเวณ "วงแหวนแห่งไฟ" (Ring of Fire) พื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาและภูเขาไฟระเบิดมากที่สุดในโลกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด 10 ครั้งของโลก ล้วนเกิดในพื้นที่วงแหวนแห่งไฟ นี่คือผลลัพธ์โดยตรงจากโครงสร้างเปลือกโลกบริเวณนี้ที่ทำให้เกิดการสะสมพลังงานและปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรงเมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนตัว
แนวร่องลึกก้นสมุทรคูริล-คัมชัตกา ซึ่งอยู่ใกล้ชายฝั่ง เป็นจุดที่แผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกกำลังมุดตัวลงใต้แผ่นเปลือกโลกโอคอตสก์ แม้แผ่นเปลือกโลกจะเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา แต่บริเวณขอบแผ่นที่ชนกันมักติดขัดจนพลังงานสะสม และเมื่อพลังงานมากพอ ก็จะปลดปล่อยออกมาในรูปของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่
อีกปัจจัยสำคัญคือ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก โดยแผ่นแปซิฟิกกำลังเคลื่อนที่เข้าใต้แผ่นโอคอตสก์ด้วยความเร็วประมาณ 75 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งถือว่าเร็วมากในมาตรฐานทางธรณีวิทยา และทำให้โอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มีมากกว่าบริเวณอื่น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1952 เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 แมกนิจูดในจุดใกล้เคียงกันเพียง 30 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีกรณีแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นปี 2011 (9.1) และแผ่นดินไหว “Boxing Day” ในอินโดนีเซียปี 2004 (9.3) ซึ่งล้วนเป็นแผ่นดินไหวในเขตมุดตัวเช่นเดียวกัน และทั้งสองเหตุการณ์ทำให้พื้นทะเลยกตัวขึ้น ส่งผลให้เกิดสึนามิรุนแรง โดยเพียงหกชั่วโมงหลังแผ่นดินไหว สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่ามีอาฟเตอร์ช็อกแล้วมากกว่า 35 ครั้งที่มีขนาดเกิน 5.0 และมีโอกาสสูงที่จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 7.5 หรือใหญ่กว่านี้อีก อาฟเตอร์ช็อกอาจเกิดขึ้นต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน แม้จะลดความรุนแรงลงตามเวลา
นักวิทยาศาสตร์จะเฝ้าติดตามคลื่นสึนามิอย่างใกล้ชิด และปรับแบบจำลองให้แม่นยำขึ้น พร้อมกับหน่วยงานด้านภัยพิบัติในแต่ละประเทศที่จะออกคำแนะนำอย่างเป็นทางการต่อไป
แม้แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับนี้จะเกิดไม่บ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบร้ายแรงทั้งในพื้นที่และทั่วโลกพื้นที่คัมชัตกามีความเคลื่อนไหวทางธรณีสูงมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ก็เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4 แมกนิจูด ทำให้เกิดคำถามทางวิชาการว่า เหตุการณ์ก่อนหน้านี้อาจเกี่ยวข้องกับการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในวันนี้หรือไม่
ไม่เฉพาะรัสเซีย ญี่ปุ่น หรืออินโดนีเซีย ประเทศอย่างนิวซีแลนด์เองก็อยู่บนเขตมุดตัว เช่นเดียวกับเขตฮิคุรันงิทางตะวันออกของเกาะเหนือ ซึ่งเชื่อกันว่ามีศักยภาพทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 ได้ในอนาคต และจะก่อให้เกิดสึนามิเช่นกัน
เหตุการณ์ในคัมชัตกาจึงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนถึงภัยจากแผ่นดินไหวและสึนามิที่ไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง จำเป็นต้องตระหนักและปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
