MOSHI ปลื้มSSSGเหนือ20% ทุ่ม 150 ล้่านขยายสาขา
MOSHI ฉายแววผลงานไตรมาส 2/66 เด่น รับอานิสงส์เปิดประเทศท่องเที่ยว โควิด-19 คลายตัว เศรษฐกิจฟื้น และเงินบาทที่แข็งค่าเอื้อต่อการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ พร้อมคงความสามารถในการรักษาระดับ SSSG ให้อยู่เหนือ 20% ได้ต่อเนื่อง อัดฉีดงบ 130-150 ล้านบาท ขยายสาขาใหม่และรองรับระบบไอที ย้ำยังคงเป้าหมายรายได้ปี 66 โตไม่ต่ำกว่า 20%
นางสาวศุภรดา โรจน์วัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ)หรือ MOSHI เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2566 มองว่าจะมีการเติบโตค่อนข้างดีเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานที่ต่ำในปีที่ผ่านมาจากผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด ประกอบจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อ รวมถึงการเปิดประเทศทำให้ยอดนักท่องเที่ยวชาวชาติชาติเริ่มกลับมามากขึ้นส่งผลให้แนวโน้มยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โค้ง2เด่น
อย่างไรก็ดี หากเทียบกับไตรมาส 1/2566 ที่บริษัทมีรายได้จากการขายอยู่ที่ระดับ 562.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 85.81 ล้านบาทนั้น อาจหย่อนกว่าเล็กน้อย เนื่องจากตามปกติในไตรมาส 2/2566 จะเป็นช่วงโลวซีซันของธุรกิจ แม้ว่าจะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับฤดูกาล เช่น Back to School แต่ด้วยมาร์จิ้นที่น้อยกว่าสินค้าทั่วไปทำให้อัตรากำไรขั้นต้นไม่สูง โดยไตรมาส 1/2566 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 54.1%
แผนการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทจะเพิ่มอีก 1 ประเภทสินค้าใหม่ (Categories) คือ อุปกรณ์เสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง ส่งผลให้บริษัทจะมีประเภทสินค้าที่ครอบคลุมมากขึ้นถึง 13Categories มีรายการสินค้าครบคลุมมากว่า 22,000 รายการ (SKUs) และมีแผนที่จะร่วมมือกับศิลปินสัญชาติไทย รวมถึงลิขสิทธ์คาร์เร็กเตอร์จากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มเติมอีก 3 คาร์เร็กเตอร์ในครึ่งปีหลังด้วย เพื่อเข้ามาสร้างความหลากหลายให้กับสินค้าที่มี และเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
เพิ่มสาขาต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องอีก 5 สาขา ทำให้มีสาขาให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 114 สาขา จากไตรมาส 1/2566 ที่มีการเปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 3 สาขา โดยทั้งปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายจะขยายสาขาใหม่เพิ่ม 20 สาขา ซึ่งอีก 12 สาขาที่เหลือจะทยอยเปิดให้บริการในช่วงครึ่งหลังปีนี้ทั้งหมดตามแผน ส่วนเงินลงทุนปีนี้บริษัทวางไว้ที่ประมาณ 130-150 ล้านบาท หลักๆ เพื่อใช้รองรับในการขยายสาขา และบางส่วนใช้ในการพัฒนาระบบไอที
คงรายได้โต20%
ขณะที่แนวโน้มอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 2/2566 ยังมีทิศทางที่เป็นบวกแบบตัวเลข 2 หลักเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนฃ และบริษัทยังคงความสามารถในการรักษาระดับให้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยที่ไม่น้อยกว่า 20% สำหรับการลงทุนร้านค้าส่ง "บริษัท ดิโอเค สเตชั่น จำกัด" (The OK Station) มองว่าจะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในธุรกิจค้าส่งให้กับบริษัทได้มากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในปัจจุบัน ก็เป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อธุรกิจ เนื่องจากผลิตภัณฑ์สัดส่วนกว่า 55% ของบริษัทเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย ขณะเดียวกันบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการบริหารและจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ให้มากที่สุด เพื่อคงความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรให้ดี
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากการขายในปี 2566 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ระดับ 1,895.89 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังวางเป้าหมายในปี 2567 จะขยายสาขาออกไปยังต่างประเทศโดยมุ่งเน้นไปกลุ่มประเทศเพื่อบ้านอย่าง CLMV เป็นหลัก ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการศึกษาการลงทุน มีโอกาสเป็นได้ทั้งในรูปแบบของการร่วมทุน และการลงทุนเอง
โบรกคาดกำไรดี
ทางด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด มองหุ้น MOSHI กำไรดีกว่าคาด และเติบโตได้ดีในปี 2566 แนะ "ซื้อ"โดยมูลค่าที่เหมาะสมที่ 52.25 บาท มีปัจจัยหนุนจาก ผลประกอบการ Q1/66 ที่ดีกว่าที่คาดไว้ด้วยการเติบโต YoY และคาดจะเห็นกำไรเติบโตต่อเนื่องใน Q2/66 และ ครึ่งปีหลังจากการเติบโตยอดขายสาขาเดิม แผนการขยายสาขาที่คาดจะเป็นไปเป้าหมายที่ 20 สาขาต่อปี และคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวขึ้น economies of scale การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปีนี้ สร้างสถิติใหม่ได้
ปัจจุบัน MOSHI ซื้อขายอยู่ที่ PER 44 เท่าปี 2566 ซึ่งคิดเป็น PEG 1.3 เท่าจากคาดกำไรสุทธิปี 2566 เติบโตที่ 34% YoY และด้วย คาดกำไรต่อเนื่องในปี 2567 ที่ 32% YoY ฝ่ายวิจัยคาด PER จะลดลงมาอยู่ที่ 33.7 เท่าปี 2567 และ PEG มาที่เพียง 1 เท่า เท่านั้น