“โดรน 3 มิติ” ทำแผนที่ใต้น้ำ เผยวิกฤต “ปะการัง” กำลังตาย !

เมื่อคลื่นความร้อนในมหาสมุทรทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สัญญาณอันตรายที่นักวิทยาศาสตร์เคยคาดไว้ก็กลายเป็นจริง หลังจากไม่นานนี้ได้มีการเผยภาพที่ได้จากโดรนทำแผนที่ใต้น้ำ เผยให้เห็นถึงการเสื่อมโทรมของแนวปะการังฮอลล์แบงก์ (Hall Bank) นอกชายฝั่งออสเตรเลียตะวันตกในระดับที่น่าตกใจ และอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสมดุลของระบบนิเวศใต้ท้องทะเลที่กำลังสั่นคลอน
โดรนใต้น้ำที่ว่านี้มีชื่อว่า ไฮดรัส (Hydrus) เป็นยานพาหนะใต้น้ำอัตโนมัติแบบลอยตัวขนาดกะทัดรัด หรือ AUV ที่สามารถใช้งานได้โดยผู้ควบคุมเพียงคนเดียว ซึ่งช่วยลดต้นทุนและความท้าทายด้านการขนส่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้นักประดาน้ำได้อย่างมาก
ตัวโดรนสามารถใช้ร่วมกันหลาย ๆ ตัวได้ ช่วยให้สำรวจพื้นที่ได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง สามารถเก็บภาพและข้อมูลความละเอียดสูง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมินสุขภาพปะการังและกำหนดกลยุทธ์การอนุรักษ์
โดรนไฮดรัส (Hydrus) ยังทำงานได้อย่างอิสระโดยสมบูรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือจีพีเอส (GPS) และมีระยะทำการกว่า 1.5 กิโลเมตร ที่ความลึกสูงสุด 300 เมตร เป็นเวลาสูงสุด 3 ชั่วโมง โดยสามารถบันทึกวิดีโอความชัดระดับ 4k ในขณะที่วิเคราะห์ข้อมูลไปพร้อมกันได้
ทีมผู้พัฒนาได้ใช้โดรนจำนวน 3 ลำทำงานร่วมกัน เพื่อสำรวจแนวปะการัง และสร้างแบบจำลองดิจิทัล 3 มิติ (digital twin) ของพื้นทะเลฮอลล์แบงก์ แบบจำลองดังกล่าวเผยให้เห็นพื้นทะเลที่ว่างเปล่า เต็มไปด้วยปะการังสีซีดหรือปะการังที่ถูกฟอกขาว และการแตกหักของปะการังอย่างหนัก แสดงให้เห็นถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ซ่อนอยู่แต่กลับทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทีมผู้พัฒนาระบุว่าการมีแบบจำลอง 3 มิติเช่นนี้ ทำให้หน่วยงานที่ดูแลสามารถวัดความขรุขระหรือความหยาบของพื้นทะเล ซึ่งมักใช้เป็นตัวบ่งชี้ความซับซ้อนของระบบปะการังได้ และยังทำให้มีข้อมูลสำหรับใช้วางแผนการอนุรักษ์ได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
