ตลท.สั่ง ACC ชี้แจงปมที่ผู้สอบบัญชีสงสัยการเพิ่มทุนในบริษัทย่อย

วันนี้ (11 มิถุนายน 2568 ) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ บมจ. แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น หรือ ACC ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยผู้สอบบัญชีมีเงื่อนไขและข้อสังเกตเกี่ยวกับการลงทุนใน บจก. อาร์ ที เอส (2003)(RTS) ซึ่งบริษัทพบความผิดปกติในการจดทะเบียนเพิ่มทุนของ RTS ที่เกิดก่อนที่บริษัทเข้าลงทุน นอกจากนี้ ในงบการเงินยังมีข้อมูลเกี่ยวกับเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ที่ไม่ได้รับชำระเงินคืนตามกำหนด ซึ่งกรณีข้างต้นอาจเกี่ยวข้องกับระบบควบคุมภายใน รวมถึงอาจกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท
โดยขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ในส่วนความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท
สรุปเหตุการณ์และข้อมูลสำคัญในงบการเงินของ ACC ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 และข้อมูลให้บริษัทชี้แจง
1. การเข้าลงทุนในบจก. อาร์ ที เอส (2003)(RTS)
18 ก.ย.67 - คณะกรรมการมีมติลงทุนหุ้น RTS ในสัดส่วน 60% โดยชำระเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ขาย 3 ราย (รวม 264 ล้านบาท) พ.ย. – ธ.ค.67 ผู้ถือหุ้นอนุมัติการลงทุนใน RTS และบริษัทจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ขายและรับโอนอำนาจควบคุม (ผู้ขายเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรวม 23%)
24 เม.ย. 68 - บริษัทแจ้งความดำเนินคดีเพื่อขอระงับการทำธุรกรรมทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับหุ้นของบริษัทที่อยู่ในความครอบครองของกลุ่มผู้ขาย เนื่องจากพบความผิดปกติในการจดทะเบียนเพิ่มทุนหุ้น RTS ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับกลุ่มบุคคลดังกล่าว
15 พ.ค. 68 - บริษัทนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ซึ่งผู้สอบบัญชีมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการลงทุนหุ้น RTS ทำให้ไม่มีหลักฐานเพียงพอเหมาะสมต่อรายการปรับปรุงหรือการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน รวมทั้งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับบริษัทอยู่ระหว่างจัดหาผู้ประเมินราคาอิสระเพื่อประเมินมูลค่ายุติธรรมของ RTS (มีค่าความนิยม 71 ล้านบาท คิดเป็น 27% ของมูลค่าซื้อ)
ทั้งนี้ จากข้อมูลข้างต้น บริษัทพบความผิดปกติหลังจากตัดสินใจเข้าลงทุนในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งอาจมีประเด็นเกี่ยวกับระบบการควบคุมภายใน จึงขอให้บริษัทชี้แจงกระบวนการและขั้นตอนในการตรวจสอบสถานะกิจการและผู้ขาย (DueDiligence) และข้อมูลที่ทำให้พบความผิดปกติ ผลกระทบต่อบริษัทและการกำกับดูแล RTS (บริษัทย่อย) นโยบายการลงทุนในอนาคต
2. เงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ที่ยังไม่ได้รับชำระเงินคืนตามกำหนด ซึ่งอาจกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัท จึงขอให้บริษัทชี้แจงการพิจารณาการให้กู้ยืมรวมถึงความสามารถของผู้กู้ ประโยชน์ต่อบริษัท และความสมเหตุสมผลของเงื่อนไขการให้กู้มาตรการและความคืบหน้าในการติดตามหนี้ในรายการดังต่อไปนี้
2.1 เงินให้กู้ยืมกับกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทย่อยโดยไม่คิดดอกเบี้ยและไม่มีหลักประกัน 245 ล้านบาท ทยอยครบกำหนดชำระตั้งแต่ 9 เม.ย. 68 จนถึง 9 ต.ค. 71
2.2 เงินให้กู้ยืมกับบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง 176 ล้านบาท ซึ่งได้บันทึกค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นแล้ว 51%
2.3 ลูกหนี้จากการขายหุ้น บจก.เอซีซี แคนนาบิส (อดีตบริษัทย่อย) โดยเมื่อ 5 ก.ค. 67 บริษัทขายหุ้นดังกล่าวเป็นเงิน 34 ล้านบาท ซึ่งผู้ซื้อจะทยอยชำระ 5 งวดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 มิ.ย. 68 ทั้งนี้ชำระแล้ว 2 งวด รวม 6 ล้านบาท คงเหลืออีก 28 ล้านบาท อย่างไรก็ตามผู้ซื้อไม่ได้ชำระเงินงวด ธ.ค. 67 และมี.ค. 68
3.ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบ
3.1 ความเพียงพอและเหมาะสมของระบบควบคุมภายในของบริษัทจากกรณีพบความผิดปกติใน RTS รวมทั้งกลไกการติดตามดูแลและปรับปรุงระบบความควบคุมภายในของคณะกรรมการตรวจสอบและมาตรการกำกับดูแลเรื่องดังกล่าว
3.2 มาตรการกำกับดูแลความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจต่างๆ การให้เงินกู้ยืม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และการขยายธุรกิจของบริษัท
ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบความผิดปกติของ RTS ยังไม่แล้วเสร็จ หรืออยู่ระหว่างดำเนินการ และต้องมีการปรับปรุงระบบควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง ขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว รวมถึงความคืบหน้าในการรับชำระหนี้เงินให้กู้ยืมและลูกหนี้จากการขายบริษัทย่อย พร้อมกับการนำส่งงบการเงินทุกไตรมาสหรือเมื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการใด ๆ ที่สำคัญ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
