เหตุถมดินทับทางน้ำ! ชาวบ้านเสด็จเดือดร้อนหนักท่วมนานกว่า 10 วัน

จากกรณีเกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร์จำนวนมากใน 9 อำเภอ ซึ่งในทุกพื้นที่น้ำลดระดับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ที่ ม.3 ต.บ้านเสด็จอ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังนานกว่า 10 วันแล้ว โดยมวลน้ำที่เกิดจากฝนตกหนักไหลเข้าท่วมในพื้นที่ที่มีลักษณะแอ่งกระทะ ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ระดับน้ำบนถนนสายเคียนซา-เขานาใน ระดับน้ำสูงประมาณ 15 เซนติเมตรเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตรงช่วงสามแยกเส้นเคียนซา-บ้านน้ำราด ระดับน้ำสูงกว่า 60 เซนติเมตรรถเล็กสัญจรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องนำป้ายมาวางเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทาง ส่วนพื้นที่บ้านเรือนมีบ้านเรือนจำนวน 9 หลัง และพื้นที่การเกษตรประมาณ 200 ไร่ มีน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร ตามระดับของพื้นที่  ซึ่งระดับน้ำลดลงได้เล็กน้อยเพราะไม่มีที่ไป จึงต้องหาวิธีการช่วยเหลือชาวบ้าน 

โดยก่อนหน้านี้ก็มีความพยายามใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกล แต่ไม่มีที่ที่เหมาะสมในการจะสูบน้ำไปทิ้ง เพราะจะไปกระทบกับที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ทาง ปภ.จึงไม่สามารถดำเนินการได้ ทางฝ่ายปกครองจึงเร่งหาวิธีการแก้ไขช่วยชาวบ้าน ให้เร็วที่สุดเพราะน้ำลดระดับได้ช้า ประกอบกับเป็นช่วงมรสุมประจำปี หากมีฝนตกซ้ำจะทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบมากกว่านี้ 

นายชวลิต โรจนรัตน์ นายอำเภอเคียนซา กล่าวว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำจุดรองรับน้ำ ที่ผ่านมาสภาพภูมิประเทศเปลี่ยนแปลง มีการปิดทับทางน้ำ และการถมที่ดินของชาวบ้านทำให้ทิศทางของน้ำเปลี่ยนแปลง จนไหลมารวมในพื้นที่นี้ ที่ผ่านมาก็ได้นำถุงยังชีพเข้ามาเยียวยาและหาวิธีการแก้ไข ไม่ให้กระทบกับประชาชนในส่วนอื่นๆ จนเมื่อช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้มีการทำประชาพิจารณ์ภายในหมู่บ้านจนได้แนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยในระบบเร่งด่วนจะได้ประสาน ปภ.จังหวัดนำเครื่องสูบน้ำระยะไกล มาสูบน้ำออกจากพื้นที่ในเขตบ้านเรือนประชาชน ไปใส่ในอ่างน้ำที่อยู่ห่างจากจุดที่ประสบปัญหาประมาณ 3 กิโลเมตร ส่วนระยะที่ 2 ในการแก้ไขปัญหาระยะยาว จะมีการดำเนินการจัดหางบประมาณเข้ามาดำเนินการปรับเส้นทางน้ำจากพื้นที่สูงให้ไหลลงสระ ไม่ไหลเข้ามาในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ไม่มีทางระบายน้ำอีก ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านในช่วงฤดูน้ำหลากปีหน้า

โดยหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการประสาน ปภ.จังหวัด เร่งนำเครื่องสูบน้ำระยะไกลเข้ามาสูบน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อช่วยชาวบ้านให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE