บริษัท Stripe กลับมาเปิดให้บริการชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซี่อีกครั้งในรอบ 4 ปี
Stripe บริษัทให้บริการชำระเงินยักษ์ใหญ่ ได้มีการนำระบบการชำระเงินด้วยเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี่มาใช้ใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ได้ห่างหายมาเป็นระยะเวลา 4 ปี โดยบริษัทได้มีการกล่าวว่า ตอนนี้บริษัทเริ่มมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี่มากขึ้นจากการที่กระแสการลงทุนในคริปโทเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สืบเนื่องจากการที่บริษัท Stripe ได้มีการหยุดรับการชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซี่มาเป็นเวลา 4 ปี ทางด้านบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างพื้นฐานบริษัทครั้งใหม่ในเมืองซานฟรานซิสโกและดับลินซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ และมีการเปิดสำนักงานตามที่ต่าง ๆ อีก 14 แห่งทั่วโลก สอดคล้องกับเว็บไซต์ของบริษัทที่ได้มีการระบุว่า ตอนนี้มีบริษัทมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลกที่ได้มีการใช้บริการของ Stripe ในการดำเนินกิจการทางด้านธุรกิจ โดยบริษัทดังกล่าวประกอบไปด้วย Amazon, Microsoft, Shopify, Google, Uber และ Nasdaq
ทางด้าน John Collison ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Stripe ได้ออกมากล่าวแล้วว่า ตอนนี้ทางบริษัทให้การสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี่อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี่, บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา, Wallet และตลาด NFT
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัท Stripe ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทแรก ๆ ที่ได้มีการเปิดตัวระบบการชำระเงินด้วยเหรียญบิตคอยน์ในช่วงปี 2014 อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2018 ทางบริษัทได้มีการปิดระบบการทำธุรกรรมด้วยเหรียญบิตคอยน์ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา รวมไปถึงตอนนั้นบริษัทได้กล่าวว่าเหรียญบิตคอยน์เริ่มเป็นเหรียญที่มีประโยชน์ต่อการชำระเงินน้อยลง
ปัจจุบันบริษัทหันหลังกลับมาอ้าแขนรับการชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซี่อีกครั้งพร้อมกับเน้นย้ำว่า ตอนนี้บริษัทเข้าใจว่าอนาคตของคริปโทเคอร์เรนซี่กำลังมีทิศทางที่ดีมากขึ้นทำให้บริษัทเริ่มดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชนมากขึ้น
ข้อมูลจาก : Bitcoin.com
ภาพจาก : pixabay.com