รีเซต

รบ.เผยผลวิจัยวัคซีนไทย "ChulaCov19" กระตุ้นภูมิเท่าไฟเซอร์ คาดใช้จริง เม.ย.ปีหน้า

รบ.เผยผลวิจัยวัคซีนไทย "ChulaCov19" กระตุ้นภูมิเท่าไฟเซอร์ คาดใช้จริง เม.ย.ปีหน้า
ข่าวสด
20 สิงหาคม 2564 ( 19:11 )
59

ข่าววันนี้ 20 ส.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล" ว่า วันนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 25,818,666โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 19,586,009 โดส เข็มที่สอง 5,705,200 โดส และเข็มบูสเตอร์ 527,457 โดส ทั้งซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า โมเดอร์นา และไฟเซอร์ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยกว่าหายป่วยกลับบ้าน เห็นได้ว่าเป็นความพยายามของแพทย์และพยาบาลที่จะดูแลระบบสาธารณสุขและสุขภาพของคนไทยให้เป็นไปด้วยดี

 

นายอนุชา กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากวัคซีนที่เราได้หามาจากต่างประเทศ ยังมีวัคซีนที่พัฒนาในประเทศไทย ใน 2 ส่วน ส่วนแรกพัฒนาโดยจุฬาฯ คือ ChulaCov19 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และศูนย์วิจัยวัคซีนคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย โดยมีแพทย์นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดคนเทคโนโลยีการผลิตแบบ mRNA ดูการผลิตและวิจัยโดยตรง

 

 

"วัคซีนชนิดนี้จะใช้เหมือนกับวัคซีนชนิด mRNA และคาดว่าจะเตรียมใช้จริงช่วงเดือน เม.ย. ปี 2565 โดยวัคซีนของไทยสามารถเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้นานถึง 3 เดือนและเก็บในอุณหภูมิห้อง 25 องศาเซลเซียส ได้นาน 2 สัปดาห์ และยังสามารถผลิตได้เร็ว สามารถสังเคราะห์ในหลอดทดลองได้ภายใน 4 สัปดาห์โดยไม่ต้องรอเพาะเลี้ยงเชื้อ รวมถึงสามารถปรับแต่งพันธุกรรมตามเชื้อที่กลายพันธุ์ได้ เมื่อสำเร็จจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด"

 

 

นายอนุชา กล่าวอีกว่า จากผลการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครสามารถกระตุ้นภูมิชนิดแอนติบอดีได้เทียบเท่ากับวัคซีน mRNA สามารถยับยั้งการจับโปรตีนกลุ่มน้ำได้ถึง 94 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับวัคซีนไฟเซอร์ และไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง มีเพียงอ่อนเพลียไข้ต่ำหนาวสั่นบ้าง สำหรับผู้ที่ได้รับเข็ม 2 อาการดีขึ้นภายใน 1-2 วัน

 

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ส่วนที่สองคือวัคซีนใบยา ของบริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ซึ่งพัฒนาโดยเซลล์พืช เรียกว่าใบยาฟาร์มมิ่ง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีผลิตโมเลกุลโปรตีนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ต้นทุนต่ำกว่าชนิดอื่น และเป็นการวิจัยผลสำเร็จครั้งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าภายในปลายเดือน ส.ค. หรือต้น ก.ย. จะเริ่มคัดเลือกอาสาสมัครเพื่อมาทดสอบในระยะที่ 1 หากทดสอบในคนผ่านทุกระยะและปลอดภัย คาดว่าจะเริ่มผลิตและใช้วัคซีนชนิดนี้ได้กลางปี 2565 หรือไตรมาสที่ 3 โดยจะผลิตได้ประมาณ 5 ล้านโดส หรือ 60 ล้านโดสต่อปี

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง