เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

#SET #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index ยังคงแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,550-1,565 จุด ภาพรวมยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน การแถลงต่อสภาฯของประธาน FED วันที่ 2 ยังคงเน้นย้ำถึงหน้าที่ของ FED อย่างไร้ข้อแม้ในการดึงเงินเฟ้อให้กลับสู่กรอบเป้าหมาย 2% และพยายาม Soft Landing เศรษฐกิจสหรัฐฯในปีหน้าซึ่งท้าทาย และยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิด Recession ทำให้ราคาน้ำมันดิบหลังจากปรับฐานลงแรงยังฟื้นตัวได้จำกัดจากความกังวลเรื่อง Demand ที่อาจลดลงในระยะถัดไป 

อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่า SET Index จะยังแกว่งตัวได้แข็งแรงกว่าภูมิภาคอื่นๆ จากเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังเร่งตัวตามการ Reopening และเปิดประเทศใน 2H22 ระยะกลาง-ยาวเรามองจังหวะปรับลงของดัชนีหาระดับ 1,520+- จุด เป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐาน ส่วนระยะสั้นยังเน้นลงทุนในหุ้น Value และ Defensive Play ที่เกียวข้องกับสินค้าบริการจำเป็นซึ่งคาดแกว่งตัวได้แข็งกว่าตลาด รวมถึงหุ้น Reopening Play ที่ได้อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว 

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และ Defensive Play ที่แนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง 

หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD

หุ้นเด่นวันนี้ : BCH

• แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 28.50 บาท

• แม้แนวโน้มกำไร 2Q22 จะชะลอตัวจาก Low Season และสถานการณ์โควิดที่คลีคลาย แต่ตลาดมองข้ามการดำเนินงานหลักที่ยังเติบโตแข็งแกร่งทั้งผู้ป่วยไทย ต่างชาติ และรายได้ประกันสังคม รวมถึงโรงพยาบาลใหม่ๆที่เพิ่งเปิดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาที่ไม่ถ่วงผลการดำเนินงานแล้ว

• คาดกำไรปี 2022-2023 -32% Y-Y และ -58% Y-Y แต่คาดกำไรปี 2023 จะยังสูงกว่าช่วงก่อนโควิดถึงกว่า 50% ระยะสั้นคาด Downside จำกัดและมีโอกาสเกิด Technical Rebound จากแนวรับหลัก

• แนวรับ 18-17.80 บาท แนวต้าน 18.50//19 บาท       

**บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีฯ Sideway ความกังวล Recession ถ่วงตลาด นักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นไทยต่อเนื่อง

คืนวานนี้(23) Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังย้ำในนโยบายการเงินของ Fed ที่เข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นักเศรษฐศาสตร์ยังมีการพูดถึงเรื่อง Recession อยู่ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงผันผวนต่อ

คืนนี้(24) ยังต้องติดตามการหารือของ EU อีกวัน เกี่ยวกับการให้เงินช่วยเหลือยูเครน 9.5 พันล้านเหรียญ และการรองรับสถานะเข้าเป็นสมาชิก EU ซึ่งหลายฝ่ายมีการคาดการณ์ว่ายูเครนจะได้รับสถานะผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ EU หลังจากได้รับไฟเขียวจากคณะกรรมาธิการยุโรป

ธ.อาคารสงเคราะห์ส่งสัญญาณขยับดอกเบี้ยเงินกู้ และให้รับมือกับการขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ในเดือน ส.ค. เรามองว่าหากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยกลุ่มธนาคารจะได้ประโยชน์ แต่จะกระทบต่อกลุ่มอสังหาฯ และบัตรเครดิต

เม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติยังไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชีย วานนี้(23) Net Sell $801 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Net Sell ตลาดหุ้นไทย 2.2 พันล้านบาท เรายังย้ำว่าหุ้นที่ต่างชาติเคยซื้อมากยังคงต้องระวัง โดยเฉพาะหุ้นน้ำมัน

หุ้นเพิ่มทุนของ J และ RATCH เริ่มทำการซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ยอดขายบ้านของสหรัฐฯ และดัชนีภาคการผลิตของไทย

ทั้งนี้การลงทุนในช่วงนี้จึงเน้นเล่นสั้นๆ  การแถลงของ Powell (ประธาน Fed) กลับไปทำให้ความต้องการถือสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง เพิ่มขึ้น อาทิ พันธบัตรและเงินดอลล่าร์  ขณะที่ตลาดหุ้นไทยถูกกระทบจากการอ่อนค่าของเงินบาท (ดีต่อหุ้นส่งออกในหมวดอาหาร)

ฝ่ายวิจัยยังแนะให้ลดการถือหุ้น Commodity ที่ปรับตัวขึ้นหรือได้อานิสงค์จากเงินเฟ้อ เช่น ผลิตน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมัน รวมถึงหุ้นปิโตรเคมีที่ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ คือ SCGP, SCC, PTTGC, IRPC 

หุ้นในพอร์ตวันนี้เรานำ JMT ออก และเพิ่ม BGRIM, COM7 เข้ามาแทน หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย BGRIM(10%), COM7(20%), SCGP(10%), BBIK(20%),  IRPC*(10%)

Strategy Stock Pick

COM7: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 35.00 บาท) “ลุ้นราคาหุ้นฟื้นหลังปรับฐาน..ประเมินปัญหาของขาดคลี่คลาย”

•ลุ้นราคาหุ้น COM7 จะเริ่มฟื้นตัวหลังปรับฐานกว่า 2 เดือน (-23%) ขณะที่การ Secure Order และสินค้าคงคลัง Smart Phone และสินค้า IT ดีขึ้น มีของพร้อมขาย

•เตรียมเปิดตัว Iphone 14 ในช่วง 3Q-4Q22 กระแสจาก Fan Base ค่อนข้างดีคาดจะหนุนยอดขาย Iphone 13&14 รวมถึง Ipadให้โตต่อ ในด้านอุตสาหกรรมปี ’22 กำลังซื้อสินค้ากลุ่ม Mid-High Price range ดี 

•KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 ที่ 3.27 พัน ลบ. และ 3.99 พัน ลบ. +24%YoY, +22%YoY ตามลำดับ

Technical : ASIAN, FORTH

**บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด ประเมิน ดัชนี SET ฟื้นตัวในกรอบจำกัดถูกกดดันจากเงินทุนไหลออก วางแนวรับดัชนีที่ 1,540 – 1,550 แนวต้าน 1,560 – 1,570 แนะนำเก็งกำไร SAWAD,MTC (+ผลกระทบเพดานดอกเบี้ยไม่มาก)/SCC,SCGP,CBG,OSP (+ต้นทุนการผลิตลดลง)/ ASIAN, CFRESH, TU  

SMPC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Consensus 17.90 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q65 คาดเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการถังแก๊สในตลาดทวีปอเมริกาเหนือที่มีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และตลาดแอฟริกายังมีแนวโน้มการเติบโตสูง นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากในช่วงนี้เพราะมีสัดส่วนการส่งออกมากถึง 95% อีกทั้งต้นทุนราคา HRC ที่ปรับตัวลดลง และค่าขนส่งทางเรือที่ทยอยดีขึ้นตามลำดับ โดยทั้งปี 65 ผู้บริหารวางเป้ายอดขายจะเติบโต 10-15% จากปริมาณขายถังแก๊สไว้ที่ 8 ล้านใบ จากปีก่อนที่ 6. ล้านใบ วางกลยุทธ์การขยายกำลังการผลิตถังแก๊สขนาดใหญ่ และถังสามส่วนเพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้น

BA* (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.65 บาท) แนวโน้มกลุ่มการบินปรับตัวดีขึ้นโดยภาพรวมจากการที่เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มหลังจากม.รัฐยกเลิก Thailand Pass ที่จะเริ่ม 1 ก.ค. นี้ ขณะที่บริษัทเตรียมขายสนามบินสมุยบางส่วนเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ (REITS) โดยให้ทาง บ.กรุงเทพ รีทแมเนจเม้นท์ เช่าสิทธิลงทุนใน BAREIT ปีนี้ ด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดเป็นปัจจัยบวกเสริมจากประโยชน์ด้านต้นทุนค่าเชื้อเพลิงขอบริษัทฯ โดยบริษัทวางเป้าเที่ยวบินปี 65 ไว้ที่ 3.4 หมื่นเที่ยวบิน ด้วยปริมาณผู้โดยสาร 2.64 ล้านคน โดยวางแผนเปิดเที่ยวบินเพิ่ม 13 เส้นทางใน 2Q65 ส่วน IATA คาดอุตสาหกรรมการบินโลกจะกลับสู่ภาวะปกติในปี 2567