‘ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์’ กระแสปัง 13 วัน ต่างชาติมาแล้ว 5,174 คน ทำเงินสะพัด 400-500 ล้านบาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นับตั้งแต่วันที่ 1-13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม จำนวน 5,174 คน ไม่พบเชื้อโควิด 5,164 คน ที่เหลือแบ่งเป็นรอผลตรวจโควิด 3 คน และคัดกรอง 7 คน มียอดการจองห้องพักสะสมช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 อยู่ที่ 187,265 คืน (รูมไนท์) เฉพาะเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 162,770 คืน เดือนสิงหาคม 22,521 คืน และเดือนกันยายน 1,974 คืน โดยในจำนานทั้งหมด พบว่าเป็นยอดจองห้องพักและชำระเงินแล้ว จำนวน 168,862 คืน ซึ่งถือว่ามีความชัดเจนในการเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยแน่นอน ซึ่งภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เนื่องจากหลังเปิดรับต่างชาติเพียง 13 วัน มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 5,000 คน เทียบกับปี 2563 ที่มีต่างชาติเข้ามาในมาตรการเอสทีวีทั้งปีเพียง 10,000 คนเท่านั้น โดยจากการสำรวจการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา เฉพาะยุโรป สหรัฐฯ ปกติจะใช้จ่ายอยู่ที่ 65,000 บาทต่อคนต่อทริป แต่ขณะนี้ใช้จ่ายสูงขึ้นอยู่ที่ 89,000 บาทต่อคนต่อทริป รวมเม็ดเงินใช้จ่ายจะสะพัดในพื้นที่ประมาณ 400-500 ล้านบาท

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้วางแผนหารือร่วมกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการจัดทำแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพิ่มด้วย ผ่านการทำโครงการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ต้องการเข้ามาตีกอล์ฟในไทย โดยเน้น 4 จังหวัดนำร่องก่อน ได้แก่ ภูเก็ต สมุย พังงา และกระบี่ ที่จะจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวกีฬากอล์ฟ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มในเดือนสิงหาคมนี้ รวมถึงจะศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนด้วย เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่อยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มช่วงเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากไตรมาส 4 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นในการท่องเที่ยวของภาคเหนือด้วย ซึ่งปกติแล้วในไตรมาสสุดท้ายของปี ต่อเนื่องถึงเดือนมกราคมของปีถัดไป จะเห็นนักกอล์ฟชาวเกาหลีอพยพเข้ามาเล่นกอล์ฟในไทยจำนวนมาก จึงมองว่าเป็นอีกตลาดที่น่าดึงดูดเข้ามาเพิ่มเติม