ชงรัฐตั้งกองทุนอุ้มเอสเอ็มอี ใช้เครื่องจักรแทนแรงงานเถื่อน
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธาน กรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมการผลิต ภาคการค้าบริการ และภาคเกษตรประสบ ปัญหาขาดแคลนแรงงานประมาณ 5 แสน คน ภายหลังจากที่แรงงานต่างด้าวส่วนหนึ่ง ที่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุได้เดินทาง กลับไปต่อใบอนุญาตที่ประเทศตน ตั้งแต่ เดือนม.ค.-เม.ย. เฉลี่ยเดือนละ 90,000-100,000 คน และจาก ปัญหาโควิดระลอกใหม่ที่ทำให้แรงงานกลับประเทศไปอีกส่วนหนึ่งในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ แรงงานกลุ่มดังกล่าวยังไม่สามารถเดินทาง กลับมาได้ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชา เมียนมา ลาว ทำให้ต้อง ปิดชายแดน
สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาแรงงาน ในระยะสั้น ทางภาครัฐโดยกระทรวงแรงงานจะต้อง ผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ เช่น การยืดอายุ ใบอนุญาต หรือมาตรการอะไรก็ได้ เพื่อรักษาแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ในระบบ 2 ล้านคนให้คงอยู่ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนมาตรการระยะยาว รัฐบาลต้องจัดเตรียมกองทุนสำหรับให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้สามารถกู้ เพื่อนำไปลงทุนซื้อเครื่องจักร มาใช้ในการผลิตทดแทนแรงงาน ซึ่งจะเป็น การยกระดับอุตสาหกรรมและลดปัญหาการนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
ทั้งนี้หากกระทรวงอุตสาหกรรมเป็น เจ้าภาพในการจัดตั้งกองทุนนี้ ก็อาจจะคัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มที่มีเอกสารใบขออนุญาตประกอบกิจการ โรงงาน หรือ รง.4 เป็นต้น รวมถึงมาตรการ ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน เช่น การจัดสรรงบฯเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจ ท่องเที่ยว ให้นำเงินไปซ่อม สร้าง บำรุงรักษา เพื่อรอจังหวะที่การท่องเที่ยวจะฟื้นคืน กลับมา