KTC โบรกคงคำแนะนำซื้อ แม้ยังไม่มีปัจจัยหนุนระยะสั้น

#บลกสิกร #ทันหุ้น - บล.กสิกร คาดกำไรไตรมาส 4/ 2566 ลดลงเล็กน้อย Q0Q แต่เติบโต Y0Y คาดว่า KTC จะรายงานกำไรไตรมาส 4/2566 ที่ 1.78 พันลบ. ลดลง 4% Q0Q แต่เพิ่มขึ้น 7% YOY
บล.กสิกร คาดว่า KTC กำไรจะเติบโตปานกลาง Y0Y โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อที่ขยายตัว 5% Y0Y ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อเพิ่มเติมจากพี่เบิ้ม (ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2566 ที่7.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 4% Y0Yคาดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะทะลุเป้าหมายปี 2566 เล็กน้อย ประเมินการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโต 12% ในปี 2566 เทียบกับเป้าหมายของ KTC ที่ 10% อย่างไรก็ตาม การเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปี 2566 จะต่ำกว่าการเติบโตของการใช้จ่ายในช่วง 9เดือนแรกของปี 2566 ที่ 13.7% YoY เล็กน้อย(เทียบกับการเติบโตของอุตสาหกรรมที่10.1% YoY ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566) เนื่องจากฐานที่สูงในไตรมาส 4/2565 และคาดว่าการใช้จ่ายของลูกค้าจะล่าช้าออกไปยังไตรมาส 1/2567 เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากโครงการของรัฐบาล ส่งผลให้เราประมาณการสินเชื่อรวมปี 2566 ที่ 1.094 แสนลบ.เพิ่มขึ้น 2% Q0Q และ 5% YOY คาดว่า NPL และ credit cost จะเพิ่มขึ้น เราคาดว่า KTC จะรายงานอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ratio) ไตรมาส 4/2566 เพิ่มขึ้นเป็น 2.5% จาก 2.3% ในไตรมาส3/2566 จากการก่อตัวของ NPL ที่สูงขึ้น ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
บล.กสิกร คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 57.5 บาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการซื้อขายด้วยมูลค่าไม่แพงด้วย PER ปี 2567 ที่ 14.7 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ในอดีต 1SD และที่PBV ปี 2567 ที่ 2.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ในอดีต 1.5SD อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าราคาหุ้นจะขาดปัจจัยหนุนในระยะสั้น เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2566 จะไม่น่าตื่นเต้นและได้รับผลกระทบที่ไม่แน่นอนจากการปรับเพิ่มการชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิตตั้งแต่เดือนม.ค. 2567