รีเซต

"ทรัมป์" ป่วนโลก ขู่รีดภาษีจีน ก่อนกลับลำลดท่าทีแข็งกร้าว

"ทรัมป์" ป่วนโลก ขู่รีดภาษีจีน ก่อนกลับลำลดท่าทีแข็งกร้าว
TNN ช่อง16
14 ตุลาคม 2568 ( 11:22 )
24

หนึ่งในประเด็นร้อนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดชนวนสงครามการค้ากับจีนขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการออกมาขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมร้อยละ 100 ซึ่งในขณะนั้นได้ฉุดตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างหนัก ก่อนที่วันถัดมา “ทรัมป์” จะลดท่าทีที่แข็งกร้าวลง 

ความปั่นป่วนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวหาจีนในวันศุกร์ว่า มีท่าที "เป็นปรปักษ์อย่างยิ่ง" และกำลังจับสหรัฐฯ และทั่วทั้งโลก "เป็นตัวประกัน" ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการส่งออก พร้อมประกาศว่า สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีร้อยละ 100 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. หรือเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดำเนินการใด ๆ ของจีน ทั้งยังเปรยด้วยว่า อาจยกเลิกการประชุมกับสี จิ้นผิง ที่เกาหลีใต้ในปลายเดือนนี้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังขู่ว่า สหรัฐฯ วางแผนที่จะใช้มาตรการควบคุมการส่งออกผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่สำคัญทั้งหมด โดยเริ่มในวันเดียวกันด้วย

ท่าทีของทรัมป์ที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปสู่แนวทางการเผชิญหน้ากับจีนอีกครั้ง ได้ฉุดดัชนีหุ้นสำคัญของสหรัฐฯ ปิดร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากความกังวลว่าสงครามการค้าจะปะทุขึ้นอีกครั้ง ขณะที่จีนก็ออกมาตอบโต้ทันที โดยระบุว่าหากสหรัฐอเมริกาเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 100 จีนก็จะใช้มาตรการที่เด็ดขาดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของตนอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี ท่าทีที่แข็งกร้าวของ “ทรัมป์” กลับอ่อนลงอย่างรวดเร็ว โดยทรัมป์เชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะ "เป็นไปด้วยดี" และย้ำว่าเขายังคงมีความสัมพันธ์ที่ "ยอดเยี่ยม" กับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พร้อมกับชื่นชมผู้นำจีนว่าเป็นคนที่แกร่งมาก เป็นคนที่ฉลาดมากและยังเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ และเมื่อถูกถามว่าการเก็บภาษีเพิ่มเติมที่ร้อยละ 100 ยังคงอยู่ในแผนตามเดิมอยู่หรือไม่ "ทรัมป์" ตอบว่า "ใช่ในตอนนี้" แต่ "มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น" 

ขณะที่ล่าสุด สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าทรัมป์ยังคงมีกำหนดการพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่เกาหลีใต้ในช่วงสิ้นเดือนนี้และย้ำว่ามาตรการภาษีร้อยละ 100 ที่ทรัมป์ประกาศว่าจะเรียกเก็บจากจีนนั้น อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น

“จีน” ส่งออกพุ่ง ขยายตัวทั้งในรูปเงินหยวน และดอลลาร์

ขณะที่มูลค่าการค้าของจีนหลังจบ 9 เดือน พบว่าเร่งตัวขึ้นอย่างมาก โดยมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะทั้งในรูปเงินหยวน และดอลลาร์

สำนักงานศุลกากรของจีน (GAC) เปิดเผยในวานนี้ ว่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าของจีนในรูปสกุลเงินหยวนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 33.61 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 4,730,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากช่วง 8 เดือนแรกของปีซึ่งมีการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.5 

มูลค่าการค้าที่พุ่งขึ้น ได้รับแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกที่แข็งแกร่ง โดยพบว่าในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. การส่งออกสินค้าพุ่งขึ้นร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 19.95 ล้านล้านหยวน ในขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 13.66 ล้านล้านหยวน ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.2

ขณะที่ในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียว มูลค่ารวมของการส่งออกและนำเข้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8 เมื่อเทียบรายปี อยู่ที่ 4,040,000 ล้านหยวน ซึ่งนับเป็นอัตราขยายตัวสูงสุดในปีนี้

ส่วนข้อมูลในรูปสกุลเงินดอลลาร์สำหรับเดือนกันยายน ปรากฏว่า การค้ากับต่างประเทศของจีนขยายตัวดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มาก โดยการส่งออกในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 7.1 และเป็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ยอดส่งออกชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่การนำเข้า พุ่งขึ้นร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้เพียงร้อยละ 1.5 และถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567

“หวัง จวิน” รองผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรจีน กล่าวว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 การค้าต่างประเทศของจีนได้รักษาแนวโน้มการพัฒนาที่มั่นคงและเป็นบวก ท่ามกลางสภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อน นอกจากนี้ การขยายตัวของการค้าสินค้ายังเร่งตัวขึ้นในแต่ละไตรมาส โดยในไตรมาสที่สามของปีนี้เติบโตร้อยละ 6 ซึ่งสูงกว่าร้อยละ 1.3 ในไตรมาสแรก และร้อยละ 4.5 ในไตรมาสที่สอง

เกาหลีใต้จับตา “เงินวอน” ผันผวนสูง สัญญาณเตือนเข้าแทรกแซงตลาด

ทางการเกาหลีใต้ ได้ออกแถลงการณ์แทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยวาจา ซึ่งไม่บ่อยนักที่ทางการจะออกมาดำเนินการในลักษณะนี้ ทั้งนี้ ก็เพื่อแสดงความกังวลต่อความผันผวนที่มากเกินไปในตลาด หลังเงินวอนแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

แถลงการณ์ร่วมจากกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง และธนาคารกลางเกาหลี (BOK) ระบุว่า ทางหน่วยงานกำลังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดถึงความเป็นไปได้ที่ความผันผวนของค่าเงินวอนจะเป็นการเคลื่อนไหวด้านเดียว โดยค่าเงินวอนผันผวนสูงขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ

การแทรกแซงด้วยวาจาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีครึ่ง โดยครั้งสุดท้ายที่กระทรวงการคลังและธนาคารกลางเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับค่าเงินคือในเดือนเมษายน 2567 ซึ่งเป็นช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินวอนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าใกล้ระดับ 1,400 วอนต่อดอลลาร์ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง 

ทั้งนี้ แม้โทนของถ้อยแถลงไม่ได้แข็งกร้าว แต่การแทรกแซงด้วยวาจาอย่างเป็นทางการจากหน่วยงาน ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณทางนโยบาย และทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการเข้าแทรกแซงตลาดต่อไปได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง