นโยบายภาษีทรัมป์ ทำ 50 ประเทศแห่ขอเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผย กว่า 50 ประเทศติดต่อขอเจรจาการค้าหลังทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ ขณะที่ทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจชี้เป็นกลยุทธ์เสริมบทบาทการค้าโลก
วอชิงตัน – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายนว่า นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้าครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อน มีรัฐบาลจากมากกว่า 50 ประเทศติดต่อมายังทำเนียบขาวเพื่อขอเปิดการเจรจาทางการค้า
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การประกาศภาษีเมื่อวันพุธที่ 2 เมษายน ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกแสดงความสนใจในการเจรจาการค้าโดยตรงกับสหรัฐฯ
“เราได้รับการติดต่อจากรัฐบาลกว่า 50 ประเทศภายในไม่กี่วัน” เบสเซนต์กล่าว พร้อมเสริมว่า สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มส่งผลจริงจังในเวทีการค้าโลก
ด้านคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทรัมป์ ได้ออกมาปกป้องมาตรการภาษีดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นกลยุทธ์ที่มีเป้าหมายชัดเจนในการปรับเปลี่ยนบทบาทของสหรัฐฯ ภายในระบบการค้าโลก และยังเป็นการผลักดันให้นานาประเทศกลับมาเจรจาต่อรองเงื่อนไขทางการค้าอย่างเท่าเทียม
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยรายชื่อประเทศที่ยื่นขอเจรจา หรือรายละเอียดของข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถบริหารจัดการการเจรจากับประเทศจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวด้านภาษีของสหรัฐฯ อาจกลายเป็นหมากสำคัญในการเดินเกมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลทั้งบวกและลบต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกในระยะยาว