ASWรุกใหม่1.1หมื่นล. ใกล้ฮุบTITLEลุยภูเก็ต
ASW ลุยเปิดครึ่งปีหลังไม่ต่ำกว่า 5 โครงการ กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ตามเป้าทั้งปี ที่ 12 โครงการ 2.28 หมื่นล้านบาท มั่นใจยอดขายครึ่งปีหลังตามแผนทั้งปีที่ 1.5 หมื่นล้านบาท รายได้สู่ 7.2 พันล้านบาท เดินหน้าตั้งโต๊ะซื้อ TITLE ที่ 2.50 บาท คาดถือมากกว่า 57.79% ต่อยอดทำเลทองภูเก็ต ย้ำ TITLE เสริมแผนโตเฉลี่ย 20% แข็งแกร่ง
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัทยังเดินหน้าในการเปิดโครงการตามแผนต่อเนื่อง โดยครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการอีก 5 โครงการ 11,020 ล้านบาท ตามแผนปีนี้ เปิด12 โครงการ 22,880 ล้านบาท โดยเปิดไปแล้ว 7 โครงการ มูลค่ากว่า 11,860 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีเปิดมากกว่า 12 โครงการ
*มั่นใจรายได้ตามเป้า
ทั้งนี้ครึ่งปีแรก บริษัทมียอดขายรวม (Pre-Sale) สูงถึง 7,169 ล้านบาท มั่นใจว่าทั้งปีจะทำมียอดขายรวม 15,000 ล้านบาท เชื่อว่ายอดขายไตรมาส 3-4/2566 จะเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่เป้าหมายรายได้ (Revenue) จะอยู่ที่ 7,200 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรก 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) มีรายได้รวม 3,015 ล้านบาท สิ้นไตรมาส 2/2566 บริษัทมีมูลค่างานในมือ 14,513 ล้านบาท โดย 49% จะรับรู้ในปีนี้ หรือราว 7,062 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปี 2567-2568 ทั้งนี้โครงการส่วนใหญ่กว่า 48% จะเป็นโครงการภายใต้แบรนด์ KAVE และ 37% เป็นโครงการ Atmoz
สำหรับทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลัง 2566 คาดว่าภายหลังจัดตั้งรัฐบาลภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะประชาชนเกิดความมั่นใจ อีกทั้งมีปัจจัยบวกสนับสนุนอยู่ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับลดลงอยู่ในกรอบเป้าหมาย ประกอบกับผู้บริโภคเริ่มคลายความกังวลเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากภายหลังการประชุมคณะกรรมการการเงิน หรือ กนง.เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 2.25% มีแนวโน้มว่าไม่น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกจนถึงสิ้นปี 2566 ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคประเมินความสามารถในการซื้อบ้านของตัวเองได้ชัดเจนขึ้นและกล้าจับจ่ายใช้สอย
สำหรับอัตรายอดปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ 20% โดยตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นอัตราที่ไม่ได้เพิ่มมากนัก โดยจะเพิ่มเพียงบางทำเล และไม่ได้มากเกินกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น อาจจะกระทบต่อการตัดสินใจบ้าง แต่ลูกค้าใหม่ ไม่ได้กระทบมากนักเพราะดอกเบี้ยในระยะ 3 ปีแรกเป็นช่วงโปรโมชั่น แต่ลูกค้าเดิมอาจจะกระทบ เชื่อว่าคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีความต้องการ
@ตั้งโต๊ะซื้อ TITLE ต่อยอด
นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ TITLE (Tender Offer) ที่ราคา 2.50 บาท คาดว่าจะทำให้ถือสัดส่วนมากกว่า 57.79% โดยการเข้าลงทุนใน TITLE จะช่วยให้ ASW สามารถต่อยอด และขยายเข้าสู่ธุรกิจคอนโดในตลาดภูเก็ตได้ทันทีเนื่องจาก TITLE มีที่ดินรอการพัฒนาอีกกว่า 80 ไร่ ในทำเลศักยภาพอย่าง หาดในยาง, หาดราไวย์ และหาดบางเทาที่สามารถพัฒนาโครงการในอนาคตได้ถึง 9 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 14,000 ล้านบาท และการเข้าลงทุนดังกล่าว บริษัทยังได้ฐานลูกค้าและเครือข่ายเอเจนต์ (Agent) ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงทีมผู้บริหารและพนักงานที่เข้าใจการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติพร้อมที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพในระดับสากลต่อไป
ทั้งนี้ASW ตั้งเป้าการรับรู้รายได้ของ TITLE เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท ใน 3 ปี และการเข้าซื้อกิจการของ TITLE เสริมให้แผนการเติบโตเฉลี่ย 20% ในอนาคตของ ASW แข็งแกร่งขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง ASW ว่า กำไรปกติครึ่งปีแรก 2566 จะคิดเป็นเพียง 38.8% ของประมาณการทั้งปี 2566 ที่ 1.1 พันล้านบาท (+64.4%YoY) และแม้จะมีปัจจัยหนุนจาก TITLE รออยู่ แต่จะส่งผลบวกต่อผลประกอบการของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2567 ทั้งนี้อยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการปี 2566/67 ซึ่งผลจากการการทบทวนสมมติฐาน เบื้องต้น คาดว่ากำไรปกติปี 2566 จะลดลงราว 5-10% เป็น 1.0-1.1 พันล้านบาท ส่งผลให้ราคาเหมาะสมใหม่ ณ สิ้นปี 2566 ลดลงอยู่ในช่วง 9.20-9.70 บาทต่อหุ้น แนะนำเป็น “TRADING”