รีเซต

เปิดเหตุผลทำไม โควิด-19 ระบาดระลอกสองในจีนจึงน่ากังวล

เปิดเหตุผลทำไม โควิด-19 ระบาดระลอกสองในจีนจึงน่ากังวล
TNN ช่อง16
22 พฤษภาคม 2563 ( 12:02 )
241
1
เปิดเหตุผลทำไม โควิด-19 ระบาดระลอกสองในจีนจึงน่ากังวล

วันนี้ ( 22 พ.ค. 63 )จีนเปิดประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันจีนกำลังเผชิญการระบาดของคลัสเตอร์ใหม่ในมณฑลทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้ทั้งรัฐบาลกลางและทางการท้องถิ่นใช้มาตรการคุมเข้มกับประชากรมากกว่า 100 ล้านคน การพบผู้ติดเชื้อรอบใหม่นี้ มีประเด็นที่น่ากังวลเกิดขึ้น เพราะอะไรนั้นไปดูกัน

 

มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรกในวันที่ 7 พ.ค. ในมณฑลจี๋หลิน ซึ่งมีชายแดนติดรัสเซียและเกาหลีเหนือ และ ณ วันที่ 21 พ.ค. พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 46 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นบุคคลทีมีความเชื่อมโยงกัน

 

แม้ยังไม่มีการระบุว่าใครคือ  “patient zero”  แต่เชื่อว่าอาจจะเป็นหญิงจีนที่ทำงานในร้านซักผ้าในเมืองชูหลาน ซึ่งเธอมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่มาจากรัสเซีย ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับสองของโลกในตอนนี้

 

ประเด็นที่น่ากังวลของการพบผู้ติดเชื้อรอบนี้คือผู้เชี่ยวชาญจีนชี้ กรณีติดเชื้อในเฮยหลงเจียง จี๋หลิน ไม่เหมือนกับกรณีในหูเป่ย

 

ชิว ไห่ปัว ผู้เชี่ยวชาญของคณะกรรมาธิการสุขอนามัยของจีน เผยว่า กรณีการติดเชื้อในมณฑลเฮยหลงเจียงและมณฑลจี๋หลินส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อจากนอกประเทศจีน

 

ข้อสังเกตแรกคือ ยีนของไวรัสที่พบในทั้งสองมณฑลนั้น เหมือนกับยีนของไวรัสในกรณีการติดเชื้อจากนอกประเทศทุกประการ แต่เมื่อเทียบกับยีนของไวรัสที่พบในหูเป่ยนั้น กลับไม่ค่อยเหมือนกัน

 

ข้อที่สอง คือ ระยะฟักตัวของกรณีการติดเชื้อในสองมณฑลนั้นค่อนข้างนานกว่า อาการไม่ชัดเจน ทั้งยังมีอาการปอดเสียหายเป็นหลัก ซึ่งน้อยมากที่จะสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะหลายส่วน แต่กรณีที่พบในอู่ฮั่นนั้นมักจะสร้างความเสียหายให้กับทั้งกล้ามเนื้อหัวใจ ไต ลำไส้ เป็นต้น ข้อที่สาม ผลตรวจกรดนิวคลิอิกของกรณีการติดเชื้อในสองมณฑลนี้ เปลี่ยนมาเป็นลบได้ค่อนข้างช้าแต่อัตราการพัฒนามาเป็นอาการขั้นรุนแรงค่อนข้างต่ำ ซึ่งมีไม่ถึง 10%

 

 ทั้งนี้ การที่ยีนของเชื้อโควิดที่พบใหม่นี้แตกต่างจากตัวที่พบในมณฑลหูเป่ย ทำให้ยากขึ้นต่อการตรวจจับ และเป็นอุปสรรคสำหรับบริษัทยาต่างๆในการพัฒนาวัคซีนและยารักษา

 

อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในมณฑลดังกล่าวนั้นยังเป็นกรระบาดขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับการระบาดที่มณฑลหูเป่ย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 68000 คนและต้องล็อกดาวน์ไป 11 สัปดาห์

 

แต่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการระบาดครั้งนี้อย่างจริงจัง เมืองจี๋หลินได้มีการตั้งทีมรับมือฉุกเฉิน ที่สามารถเปลี่ยนสนามกีฬาสองแห่งให้เป็นโรงพยาบาลได้ภ่ายใน 24 ชั่วโมง

 

ขณะที่ในวันนี้ การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน หรือ NPC ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

 

โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน ได้นำเสนอรายงานเปิด โดยได้ประกาศว่ารัฐบาลจีนจะพัฒนาระบบสาธารณสุขเป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล และป้องกันไม่ให้โควิด 19 กลับมาระบาดใหม่ โดยแผนการคือ สร้างอาคารทางการแพทย์สำหรับการควบคุมโรคระบาดและการรักษามากขึ้น พัฒนากลไกการรายงานเรื่องโรคติดเชื้อโดยตรง และสามารถเตือนได้เร็วขึ้น 

นอกจากนี้ยังจะทุ่มไปที่การวิจัยและการพัฒนาวัคซีน ยา และเทคโนโลยีในการตรวจหาเชื้อด้วย

 

นอกจากนี้ เขายังประกาศว่า จะมีการออกนโยบายต่างๆที่จะทำให้มณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นจุดการระบาดแรก ได้ฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิมเร็วขึ้นด้วย

 

ปกติการประชุมเอ็นพีซีจะต้องมีขึ้นในเดือนมีนาคม กินเวลา 10 วัน  แต่ปีนี้มีการเลื่อนเพราะเกิดการระบาดของโควิด 19 และลดระยะเวลาการประชุมจาก 10 วันเหลือ หนึ่งสัปดาห์ และมีผู้แทนจากทั่วประเทศร่วมประชุมราวสามพันคน

 

การกล่าวรายงานของนายหลี่ ยังสั้นลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการอ่านรายงาน 43 หน้า แต่ปีนี้ลดเหลือ 23 หน้า โดยสื่อทางการจีนคาดการณ์ว่า เป็นเพราะรัฐบาลจีนไม่ต้องการให้เหล่าผู้แทนและนักการทูตจำนวนมาก อยู่ในพิธีเปิดนาน เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดของโควิด 19

 

 

ทั้งนี้ มณฑลเฮยหลงเจียง จี๋หลิน และเหลียวหนิง ซึ่งถูกขนานนามเป็น “เข็มขัดเปื้อนสนิม” (rust belt)  หรือเขตอุตสาหกรรมหนัก ที่กำลังเผชิญภาวะตกต่ำของประเทศพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เป็นภูมิภาคยากจน จึงถูกมองว่าเป็น Rust Belt ของจีน 

 

 

ในปีที่แล้ว มณฑลจี๋หลิน เหลียวหนิง และเฮยหลงเจียง มีจีดีพีรวมกันน้อยกว่าครึ่งของมณฑลกวางตุ้งในทางตอนใต้ของประเทศ เพราะฉะนั้น หากมีการระบาดครั้งใหญ่ในสามมณฑลดังกล่าว จะยิ่งส่งผลต่อความพยายามในการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ดังกล่าวของรัฐบาลจีนที่พยายามมาแล้วหลายปี

 

เกาะติดข่าวที่นี่ 

website: www.TNNThailand.com  

facebook : TNNThailand 

twitter : @TNNThailand 

Line : @TNNThailand 

 

Youtube Official : TNNThailand

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง