รัฐยะไข่ ในเมียนมาถือเป็นศูนย์กลางระบาดโควิด-19 รอบใหม่
วันนี้ (2ก.ย.63) รัฐยะไข่ พื้นที่ทางตะวันตกของประเทศเมียนมา ถือเป็นพื้นที่วิกฤตและจุดศูนย์กลางระบาดโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศนับตั้งแต่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่พบการระบาดในชุมชน ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะอย่างไทยต้องเพิ่มมาตรการคุมเข้มป้องกันโควิด-19 มากยิ่งขึ้น โดยเมียนมา มีพื้นที่ติดต่อกับทั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ จีน ลาว อินเดีย บังคลาเทศ และไทย
จากข้อมูลพบว่า เมียนมา พบผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่อีกครั้งเมื่อ 16 สิงหาคม นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อในประเทศครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ข้อมูลจากนาย มียะ ทุ ยุน รองอธิบดีกรมวิจัยการแพทย์ของเมียนมา ระบุว่า สายพันธุ์ไวรัสที่พบระบาดเป็นสายพันธุ์เดียวกับสายพันธุ์กลายพันธุ์ดุที่พบในมาเลเซีย หรือสารพันธุ์G และเคยพบในยุโรป, อเมริกาเหนือ และบางพื้นที่ของเอเชีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นและมีอัตราการแพร่เชื้อที่เร็วขึ้นด้วย
ล่าสุดเมียนมามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม อยู่ที่ 919 คน เสียชีวิต 6 คน โดยวันนี้(2ก.ย.) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 37 คน โดยในจำนวนนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดในย่างกุ้ง 12 คน กะฉิน 2 คน ฉานใต้ 2 คน
ส่วนมัณฑะเลย์ ตะนาวศรี และฉานเหนือ พื้นที่ละ 1 คน ขณะที่วานนี้ (1ก.ย.) เมียนมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 107 คน เป็นการทำลายสถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่ที่พบการระบาดรายแรกเมื่อ 23 มีนาคม
ผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐยะไข่ และพบการแพร่เชื้อในช่วงหลายสัปดาห์ ทำให้ต้องประกาศเคอร์ฟิว 2 เดือนห้ามประชาชนออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา เที่ยงคืน ถึง ตี 4 ยกเว้นเหตุฉุกเฉิน สำหรับคนที่เดินทางมาจากรัฐยะไข่จะถูกกักตัว 14 วัน และให้กักต่อในที่พักอีก 7 วัน รวมเป็น 21 วัน พร้อมดัดแปลงสถานที่ต่างๆ มากกว่า 2,600 แห่ง ให้กลายเป็นสถานกักตัวของรัฐ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดโรคโควิด-19
เฉพาะที่รัฐยะไข่ ยอดผู้ติดเชื้อในชุมชนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 300 คนในเวลาเพียงสองสัปดาห์ ครอบคลุม 11 เมือง รวมถึง “เมืองซิตตเว” ที่มีชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 100,000 คนอาศัยอย่างแออัดตามค่ายผู้อพยพ รัฐยะไข่ มีประชาชากร 3 ล้าน เป็นหนึ่งในรัฐยากจนที่สุดในเมียนมาและเป็นพื้นที่ความขัดแย้งรุนแรงที่มีการปราบปรามชาวโรฮีนจา ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในเมียนมา จนต้องอพยพหนีภัยความรุนแรงไปยังประเทศเพื่อนบ้านนับหลายแสนคน ขณะที่ระบบสาธารณสุขในรัฐยะไข่ ต่ำกว่ามาตรฐานและยังขาดการเข้าถึงทางการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล
นอกจากนี้เมียนมา ยังประกาศล็อกดาวน์ให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านทั้ง 7 เขตของนครย่างกุ้ง ได้แก่ ตีงานจูน อีนเซน โอะกะลาปะเหนือ ตะเคดะ ไลง์ ปะซูนดอง และมีนกะละโดน มีผลบังคับใช้ในวันนี้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ซึ่งอนุญาตให้ประชาชนบ้านหลังละ 1 คน ออกมาซื้อสิ่งของจำเป็นได้ และต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะออกจากบ้าน
การระบาดของโควิด-19 ในเมียนมา ส่งผลกระทบและสร้างความหวาดวิตกให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย ซึ่งมีพรมแดน 2,401กิโลเมตร ติดต่อกับไทยรวม 10 จังหวัด เพราะเกรงว่าจะทำให้มีการระบาดเข้ามายังฝั่งไทยเนื่องจากมีแรงงานแอบลักลอบใช้ช่องท่างธรรมชาติทั้งทางบก ทางน้ำ เข้ามายังไทยโดยไม่ผ่านด่านคัดกรอง ทำให้ 10 จังหวัดต้องเพิ่มมาตรการคุมเข้มป้องกันโควิด-19 ทั้งการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่มีการสนธิกำลัง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองเพิ่มการลาดตระเวน ทั้งในจังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ชุุมพร ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มกำลังลาดตระเวนแล้วยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยรั้วลวดหนามอีกด้วย แต่ก็ยังพบว่ายังมีการลักลอบเข้ามาในไทยอย่างต่อเนื่อง
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE