รีเซต

SCGP ยูโอบีฯ คาดกำไร Q4 โต ประเมิน MYPAK หนุนเติบโตระยะยาว

SCGP ยูโอบีฯ คาดกำไร Q4 โต ประเมิน MYPAK หนุนเติบโตระยะยาว
ทันหุ้น
7 ธันวาคม 2568 ( 09:30 )
6

#SCGP #ทันหุ้น-บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/68 จะเติบโต QoQ และ YoY โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จากยอดขายตามฤดูกาลและ margin ที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนผลิตที่ลดลง รวมไปถึงยอดขายของ fajar ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหนุน ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จากผลของ low base performance ในไตรมาส 4/67 ซึ่งฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2568 อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% YoY

ฝ่ายวิจัยยูโอบี ยังระบุว่า ก่อนหน้านี้ SCGP ประกาศลงนามในสัญญาเพื่อซื้อหุ้น PT Prokemas Adhikari Kreasi (หรือ“MYPAK”)ซึ่งเป็นบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษในประเทศอินโดนีเซีย และจากการพูดคุยกับ SCGP ดีลดังกล่าวคาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า ซึ่งดีลนี้ SCGP จะได้กลุ่มลูกค้าของ MYPAK ซึ่งส่วนมากอยู่ในธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภคในอินโดนีเซีย ซึ่งที่ผ่านมา MYPAK เริ่มมีการรับ Packaging paper จาก Fajar ในการนำไปผลิตผลิตภัณฑ์กล่องของ MYPAK เพิ่ม Captive demand ของกลุ่ม จากดีลดังกล่าว SCGP คาดเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 10% จาก 7% และทำให้มี Captive demand ของ upstream เพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 26% สำหรับธุรกิจ Packaging paper ในอินโดนีเซีย มองเป็นบวกต่อทั้ง Fajar และ SCGP

ขณะที่ยอดขาย Fajar เพิ่มขึ้น QoQ จากการส่งออก Packaging paper ไปตลาดจีนเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลของมาตรการระงับการนำเข้า dry-milled pulp ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการทำความสะอาด ทำให้เสี่ยงปนเปื้อนโลหะหนักสูง ผลจากจีนเร่งการนำเข้า Packaging paper เป็นบวกต่อ SCGP

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อหุ้น SCGP ให้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 26 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง